ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Ammonia
ชื่อเคมีทั่วไป Ammonia ; Anhydrous ชื่อพ้องอื่นๆ N-H; Ammonia, aqueous~Ammonia, solution; Ammonia สูตรโมเลกุล NH3 สูตรโครงสร้าง รหัส IMO CAS No. 7664-41-7 รหัส EC NO. 007-001-00-5 UN/ID No. 1005 รหัส RTECS BO 0875000 รหัส EUEINECS/ELINCS 231-635-3 ชื่อวงศ์ Alkaline Gas ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า Praxair Product.Inc แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : –
LC50(มก./ม3) : 2000 / 4 (มก./ม3) IDLH(ppm) : 300 (ppm) ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 35 (ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 25 (ppm) TLV-STEL(ppm) : 35 (ppm) TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : ชนิดที่ 3 หน่วยงานที่รับผิดชอบ : กรมโรงงานอุตสาหกรรม |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ก๊าซ
สี : ไม่มีสี กลิ่น : ฉุน นน.โมเลกุล : 17.031 จุดเดือด(0ซ.) : -33.35 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : -77.7 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 0.6819 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 0.579 ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : 5900ที่ 200ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : ละลายได้ ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : 11.6ที่ –0ซ. แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 0.7 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 1.428 ppm ที่ 25 0ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : – |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปในปริมาณมากกว่า 25 ppm ทำให้ระคายเคืองจมูกและคอ ถ้าได้รับปริมาณมากจะหายใจติดขัด เจ็บหน้าอก หลอดลมบีบเกร็ง มีเสมหะและปอดบวม
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนังจะเป็นฝื่นแดง บวม เป็นแผล อาจทำให้ผิวหนังแสบไหม้ถ้าได้รับสารปริมาณมากๆ กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนกินเข้าไปจะทำให้แสบไหม้บริเวณปาก คอ หลอดอาหารและท้อง สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา จะทำให้เจ็บตา เป็นผื่นแดง ตาบวม ทำให้น้ำตาไหล ทำลายตา การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : เป็นสารก่อมะเร็งและทำลายไต ตับ ปอด ระบบประสาทส่วนกลาง และเป็นสารมีฤทธิ์กัดกร่อน |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียร
สารที่เข้ากันไม่ได้ : ทอง เงิน ปรอท สารออกซิไดซ์ ฮาโลเจน สารประกอบฮาโลจีเนต กรด ทองแดง อลูมิเนียม คลอเรต สังกะสี สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ไม่ระบุไว้ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : เกิดก๊าซไฮโดรเจนที่อุณหภูมิมากกว่า 840องศาเซลเซียส อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : –
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 651 ค่า LEL % : 15 UEL % : 28 สารดับเพลิง : CO2 ผงเคมีแห้ง สเปรย์น้ำ – วิธีการดับเพลิงรุนแรง : อพยพคนออกจากบริเวณเพลิงไหม้ อย่าเข้าไปบริเวณเพลิงไหม้โดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกันอันตราย หล่อเย็นภาชนะบรรจุโดยใช้น้ำฉีดเป็นฝอย ใช้น้ำหยุดการแพร่ของไอ ย้ายภาชนะบรรจุออกถ้าสามารถทำได้ – อันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ผิดปกติ : จะเกิดก๊าซพิษที่ไวไฟและมีฤทธิ์กัดกร่อน สามารถระเบิดถ้าผสมกับอากาศและสารออกซิไดซ์ ไม่ควรเก็บภาชนะบรรจุไว้เกินอุณหภูมิ 52 องศาเซลเซียส |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บให้ห่างจากความร้อน เปลวไฟและประกายไฟ เก็บให้ห่างจากสารออกซิไดซ์ ปิดวาล์วเมื่อไม่ใช้สารหรือภาชนะบรรจุว่างเปล่า ต้องมั่นใจว่าตรึงถังแก๊สไว้แน่นอย่างเหมาะสมขณะใช้ หรือเก็บ สถานที่เก็บ : – เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : ไม่ระบุไว้ ประเภทอันตราย : ไม่ระบุไว้ หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– วิธีการปฏิบัติในกรณีเกิดการหกรั่วไหล : ให้อพยพผู้คนออกจากบริเวณอันตรายทันที สวมอุปกรณ์ป้องกันการหายใจและชุดป้องกันสารเคมี ลดการกระจายของไอด้วยสเปรย์น้ำ ย้ายแหล่งจุดติดไฟออกให้หมด หยุดการรั่วไหลของสารถ้าทำได้
การกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายออกจากบริเวณที่ได้รับสาร ถ้าไม่หายใจให้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ออกซิเจนถ้าหายใจติดขัด รักษาร่างกายให้อบอุ่น นำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนกินเข้าไป สารนี้เป็นก๊าซที่อุณหภูมิและความดันปกติ ให้บ้วนปากด้วยน้ำแล้วให้ดื่มน้ำหรือนมอย่างน้อย 2 แก้ว อย่ากระตุ้นให้อาเจียน นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกตา : ล้างตาทันทีด้วยน้ำปริมาณมากๆอย่างน้อย 15 นาที ล้างโดยเปิดเปลือกตาล่างบน จนกว่าไม่มีสารเคมีหลงเหลืออยู่ นำส่งไปพบแพทย์ทันที อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา : ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ หากมีการใช้และจัดการกับผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 6015, 6016
OSHA NO. : 188 วิธีการเก็บตัวอย่าง : หลอดเก็บตัวอย่าง วิธีการวิเคราะห์ : แก๊ซโครมาโตกราฟฟี ข้อมูลอื่น ๆ : – อัตราการไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง : 0.1 ถึง 0.2 ลิตรต่อนาที – ปริมาตรเก็บตัวอย่างต่ำสุด-สูงสุด : ต่ำสุด 0.1 ลิตร สูงสุด 76 ลิตร |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 07
DOT Guide : 125 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |