Oxalic acid

ส่วนที่ 1ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น
        ชื่อเคมี IUPAC  Ethanedionic acid

        ชื่อเคมีทั่วไป  Oxalic acid

        ชื่อพ้องอื่นๆ    Ethane-1,2-dioic acid; Ethanedioic acid; Oxalic Acid solution, 10% W/V;

        สูตรโมเลกุล    C2H2O4.2H2O

        สูตรโครงสร้าง   สไลด์38

        รหัส IMO     12283340_10207256009451999_60499863_n

        CAS No.      144-62-7

        รหัส EC NO.  607-006-00-8

        UN/ID No.    3261, 2922

        รหัส RTECS    RO 2450000

        รหัส EUEINECS/ELINCS        205-634-3

        ชื่อวงศ์ –

        ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า  JT. Baker

        แหล่งข้อมูลอื่นๆ  –

ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม
        ส่วนประกอบ:

        ชื่อ         CAS #         น้ำหนักร้อยละ
                144-62-7         
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์
        การใช้ประโยชน์ : เป็นสารกัดกร่อนไนโอเนียม เป็นสาร anodizing ใช้หล่อโลหะผสมทองแดง
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ
         LD50(มก./กก.) :    7500 (หนู)(มก./กก.)

        LC50(มก./ม3) :   –

        IDLH(ppm) :  100(ppm)

        ADI(ppm) :      –

        MAC(ppm) :    –

        PEL-TWA(ppm) :      0.20(ppm)

        PEL-STEL(ppm) :    0.40(ppm)

        PEL-C(ppm) :       –

        TLV-TWA(ppm) :    0.20(ppm)

        TLV-STEL(ppm) :      0.40(ppm)

        TLV-C(ppm) :     –

        พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 :     –

        พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 :         –

        พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 :                –

        พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541  :      เฉลี่ย 8 ชั่วโมง : สารเคมีอันตราย

        พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 :       –

        หน่วยงานที่รับผิดชอบ :        –

ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี
         สถานะ :  ผลึก

        สี : ใส,ไม่มีสี

        กลิ่น : ไม่มีกลิ่น

        นน.โมเลกุล :  126.07

        จุดเดือด(0ซ.) :  149-160

        จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) :   101.5

        ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) :        1.65

        ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) :  –

        ความหนืด(mPa.sec) :   –

        ความดันไอ(มม.ปรอท) :  <0.001 ที่ 20 0ซ.

        ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) :  14ที่  – 0ซ.

        ความเป็นกรด-ด่าง(pH) :  –

        แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm =  5.16     

        มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 =        0.20 ppm ที่ 25 0ซ.

        ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ :     –     

มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย
        สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคือง แผลไหม้ต่อจมูก คอ และทางเดินหายใจ

        สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ต่อผิวหนัง อาจทำให้ผิวหนังไหม้ได้ สารนี้อาจถูกดูดซึมเข้าร่างกายผ่านทางผิวหนังได้

        กินหรือกลืนเข้าไป การกลืนกินเข้าไปจะก่อให้เกิดแผลไหม้ คลื่นไส้ เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง ต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ อาเจียน หมดสติ และชัก อาจทำให้เกิดการทำลายไต ทำให้พบเลือด ออกปนมากับปัสสาวะ เนื่องจากกรดออกซาลิกจะมีผลต่อการดึงเอา แคลเซียมออกซาเลทออกจากเลือด ซึ่งแคลเซียมออกซาเลทจะไปอุดตันอยู่ที่ไต ซึ่งปริมาณที่รับทางการกินแล้วทำให้เสียชีวิตได้คือ 5-15 กรัม

        สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ต่อตาและอาจทำให้เกิดผลจากการกัดกร่อนได้

        การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : การสัมผัสเรื้อรังจะทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนเกิดการอักเสบ การสัมผัสถูกผิวหนังเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผิวหนังอักเสบ เกิดภาวะที่นิ้วเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ และอาจเกิดผิวหนังเปื่อยได้ อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อไต และในบางบุคคลอาจพบอาการผิดปกติ ที่ผิวหนังตา ไต และระบบหายใจได้

มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา
         ความคงตัว :  ไม่ระบุไว้

        สารที่เข้ากันไม่ได้ :  เบส คลอไรด์ ไฮโปคลอไรด์ สารออกซิไดซ์ เฟอพูริวแอลกอฮอล์

        สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง :  ความร้อน แหล่งจุดติดไฟ และสารที่เข้ากันไม่ได้

        สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว :   คาร์บอนไดอกไซด์ คาร์บอนมอนออกไซด์ จะเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับความร้อน ทำให้เกิดการสลายตัว และอาจทำให้เกิดกรดฟอร์มิก

        อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ :  ไม่เกิดขึ้น

        การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้

มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด
         จุดวาบไฟ(0ซ.) :          –

        จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) :  –

        ค่า LEL % :     –

        UEL % :        –    

        NFPA Code :   310

         สารดับเพลิง : น้ำฉีดเป็นฝอย ผงเคมีแห้ง คาร์บอนไดออกไซด์

                – สารนี้มีความไวไฟสูงและอาจเกิดการระเบิดได้

                – ไอระเหยของสารสามารถแพร่กระจายออกไปถึงแหล่งจุดติดไฟและอาจเกิดการติดไฟย้อนกลับมา

                – การฉีดโฟมหรือน้ำอาจทำให้เกิดฟองได้

                – ใช้น้ำฉีดหล่อเย็นเพื่อหล่อเย็นภาชนะบรรจุที่สัมผัสเพลิงไหม้

                – กรณีเกิดเพลิงไหม้ให้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) ที่ผ่านการรับรองจาก NIOSH พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า

มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง
         การเก็บรักษา :  

                – เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด และป้องกันความเสียหายทางกายภาพ

                – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง

        สถานที่เก็บ

                – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ

                – เก็บห่างจากความร้อน ความชื้น และสารที่เข้ากันไม่ได้

                – ภาชนะบรรจุของสารที่เป็นถังเปล่า แต่มีกากสารเคมีตกค้างอยู่ เช่น ไอระเหย ของเหลว อาจเป็นอันตรายได้

                – ให้สังเกตคำเตือนและข้อควรระวังทั้งหมดที่ให้ไว้สำหรับสารนี้

        ข้อมูลการขนส่ง 

                ชื่อในการขนส่ง : Corrosive Solid , Acidic , Organic , N.O.S. (Oxalic Acid , Dihydrate)

                ประเภทอันตราย :  8

                หมายเลข UN : UN 3261

                ประเภทการบรรจุหีบห่อ : 3

                รายงานข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์ / ขนาด : ไม่ระบุ

มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล
        – วิธีการปฏิบัติในกรณีเกิดการหกรั่วไหล ให้ตัดแหล่งจุดติดไฟทั้งหมด ออกไป

        – จัดให้มีการระบายอากาศในพื้นที่

        – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสม และให้กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณ ที่หกรั่วไหล

        – ให้ทำความสะอาดส่วนที่หกรั่วไหลโดยไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของฝุ่นในบรรยากาศ

        – ให้ใช้อุปกรณ์และเครื่องมือ ป้องกันการเกิดประกายไฟ

        – ให้เก็บสารที่หกรั่วไหลใส่ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ หรือนำไปกำจัด

        – หากสารสัมผัสกับน้ำ ของเหลวที่เป็นกลาง สารที่เป็นด่าง เช่นโซดาไฟ ให้ทำการดูดซับส่วนที่หกรั่วไหลดัวยวัสดุที่เฉื่อย แล้วเก็บใส่ไว้ในภาชนะบรรจุ สำหรับกากของเสียเคมี

        – อย่าใช้วัสดุไวไฟ เช่นขี้เลื่อย

        การพิจารณาการกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด ป้องกันไม่ให้สารเคมีที่หกรั่วไหล ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ แม่น้ำ และแหล่งน้ำอื่นๆ

มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
 12305827_10207269043297837_1584498643_n 12277978_10207269044017855_554821809_n12309291_10207269044297862_182124300_n12286194_10207269044497867_168388570_n12282808_10207269089578994_74654600_n

        ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) :  ไม่ระบุไว้

มาตรา 12: การปฐมพยาบาล
         หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย นำส่งไปพบแพทย์

        กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป อย่ากระตุ้นให้เกิดการอาเจียน ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรือนมปริมาณมากๆ ห้ามไม่ให้สิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยที่หมดสติ นำส่งไปพบแพทย์ ทันที

        สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้เช็ดสารออกจากผิวหนังและ ให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก นำส่งไปพบแพทย์ทันที ซักทำความสะอาดเสื้อผ้า และรองเท้าก่อนนำกลับมาใช้ใหม่

        สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ค่อยๆฉีดล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที พร้อมกระพริบตาถี่ ๆขณะทำการล้าง นำส่งไปพบแพทย์ทันที

         อื่นๆ : ไม่ระบุไว้

มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
         ข้อมูลทางนิเวศวิทยา : ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ หากมีการใช้และจัดการกับผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์
         NMAM NO. :  –

        OSHA NO. :   –

        วิธีการเก็บตัวอย่าง :      –

        วิธีการวิเคราะห์ :           

        ข้อมูลอื่น ๆ :  –

มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน
        AVERS Guide :        38

        DOT Guide :            154

        – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650

        – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457

มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ
        อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)

        แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557