Piperidine

ส่วนที่ 1ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น
        ชื่อเคมี IUPAC  Hexazane; Pentamethyleneimine

        ชื่อเคมีทั่วไป  Piperidine

        ชื่อพ้องอื่นๆ    Azocyclohexane ; Cyclopentimine ; Hexahydropyridine pentamethyleneimine

        สูตรโมเลกุล    C6H11N

        สูตรโครงสร้าง   สไลด์42

        รหัส IMO      12286089_10207247452278075_1668521281_n

        CAS No.      110-89-4

        รหัส EC NO.  613-027-00-3

        UN/ID No.    2401

        รหัส RTECS    TM 3500000

        รหัส EUEINECS/ELINCS        203-813-0

        ชื่อวงศ์   Heterocyclic nitrogen compound

        ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า –

        แหล่งข้อมูลอื่นๆ  CHEMINFO

ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม
        ส่วนประกอบ:

        ชื่อ         CAS #         น้ำหนักร้อยละ
                110-89-4         
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์
        การใช้ประโยชน์ : ใช้เป็นสารเคมีในห้องปฏิบัติการ
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ
         LD50(มก./กก.) :    520 (หนู)(มก./กก.)

        LC50(มก./ม3) :        –

        IDLH(ppm) :            –

        ADI(ppm) :      –

        MAC(ppm) :    –

        PEL-TWA(ppm) :      –

        PEL-STEL(ppm) :    –

        PEL-C(ppm) :       –

        TLV-TWA(ppm) :   –

        TLV-STEL(ppm) :    –

        TLV-C(ppm) :     –

        พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 :     –

        พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 :         –

        พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 :                –

        พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541  :      เฉลี่ย 8 ชั่วโมง : สารเคมีอันตราย

        พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 :       ชนิดที่ 3

        หน่วยงานที่รับผิดชอบ :        กรมโรงงานอุตสาหกรรม

ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี
         สถานะ :  ของเหลว

        สี : ใส ไม่มีสี

        กลิ่น : กลิ่นเอมีน

        นน.โมเลกุล :  85.15

        จุดเดือด(0ซ.) :  106

        จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) :   -7

        ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) :      0.8622  

        ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) :   3

        ความหนืด(mPa.sec) :   –

        ความดันไอ(มม.ปรอท) :  40 ที่ 29.2 0ซ.

        ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) :  ละลายได้หมด

        ความเป็นกรด-ด่าง(pH) :  –

        แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm =   3.48

        มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 =     0.287 ppm ที่ 25 0ซ.

        ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ :     

                – สามารถละลายได้หมดในอะซิโตน ไดเอทธิลอีเธอร์ เบนซิน คลอโรฟอร์ม

มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย
        สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปสารนี้จะไปทำลายเยื่อบุเมือกและทางเดินหายใจส่วนบน เกิดอาการชัก กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ ปอดบวม โรคปอดอุดตันเนื่องจากสารเคมี เกิดอาการไอ หายใจติดขัด หายใจถี่รัว ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน

        สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ผื่นแดง และอาจเกิดอันตรายได้ถ้าสารนี้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

        กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการทำลายเยื่อบุทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน กล่องเสียงและหลอดลมใหญ่อักเสบ ไอ หายใจติดขัด เกิดอาการชัก

        สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ตาแดงเจ็บตา

        การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : สารนี้ทำลายปอด ทรวงอก และระบบหายใจ

มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา
         ความคงตัว :  ปกติสารนี้มีความเสถียร

        สารที่เข้ากันไม่ได้ :  สารออกซิไดซ์อย่างกรง คาร์บอนไดออกไซด์

        สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง :  ประกายไฟ เปลวไฟ ความร้อนและแหล่งจุดติดไฟอื่นๆ

        สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว :   คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์

        อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ :  ไม่เกิดขึ้น

        การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้

มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด
         จุดวาบไฟ(0ซ.) :          16

        จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) :  365

        ค่า LEL % :     –

        UEL % :        –    

        NFPA Code :   330

         สารดับเพลิง : ให้ใช้คาร์บอนไดออกไซด์ ผงเคมีแห้ง ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยหรือใช้แอลกอฮอล์โฟม

                – สารนี้เป็นของเหลวไวไฟ ส่วนผสมของไอระเหยกับอากาศสามารถทำให้เกิดระเบิดได้หรือที่อุณหภูมิสูงกว่า 16 องศาเซลเซียส

                – ไอระเหยของสารนี้หนักกว่าอากาศ สามารถไหลแพร่กระจายไปสู่แหล่งของจุดติดไฟและลุกติดไฟย้อนกลับมาสู่จุดรั่วไหลหรือภาชนะบรรจุที่เปิดฝาไว้

                – ในระหว่างเผาไหม้จะทำให้เกิดก๊าซพิษ ระคายเคืองของไนโตรเจนออกมา

มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง
         การเก็บรักษา :  

                – เก็บในภาชนะที่มิดชิด แห้ง เย็น มีการระบายอากาศอย่างเพียงพอ

                – เก็บให้ห่างจากความร้อน ประกายไฟ แหล่งจุดติดไฟ

        สถานที่เก็บ

                – หลีกเลี่ยงการหายใจเอาสารนี้เข้าไป สัมผัสถูกตา ผิวหนังและเสื้อผ้า

                – ใช้เฉพาะในบริเวณตู้ดูดควันสารเคมีเท่านั้น

                – ล้างทำความสะอาดหลังจากเคลื่อนย้าย

        ข้อมูลการขนส่ง 

                ชื่อในการขนส่ง : Piperidine

                ประเภทอันตราย :  –

                หมายเลข UN : UN 2401

                ประเภทการบรรจุหีบห่อ : –

                รายงานข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์ / ขนาด : ไม่ระบุ

มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล
        – ปิดกั้นแหล่งจุดติดไฟทั้งหมดให้ออกห่าง

        – กรณีเกิดเพลิงไหม้ให้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA)

        – ปิดคลุมด้วยทรายแห้ง ปูนขาวหรือโซดาแอซ

        – ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟเก็บกวาดเพื่อนำไปกำจัดเป็นกากของเสียต่อไป

        – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสม

        การพิจารณาการกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด

มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
 12305827_10207269043297837_1584498643_n 12277978_10207269044017855_554821809_n12286194_10207269044497867_168388570_n

        ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) : ไม่ระบุไว้

มาตรา 12: การปฐมพยาบาล
         หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย นำส่งไปพบแพทย์

        กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป และผู้ป่วยยังมีสติอยู่ให้บ้วนล้างปากด้วยน้ำ ไปพบแพทย์

        สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก

        สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที นำส่งไปพบแพทย์

         อื่นๆ : ไม่ระบุไว้

มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
         ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :

                  – ห้ามทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ น้ำเสีย หรือดิน

                  – เป็นอันตรายเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพีเอช เป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำดื่ม เมื่อผสมกับน้ำจะก่อให้เกิดสารผสมที่มีพิาต่อปลา ไม่สามารถเจือจางได้

มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์
         NMAM NO. : –

        OSHA NO. :   –

        วิธีการเก็บตัวอย่าง :     –

        วิธีการวิเคราะห์ :       –

        ข้อมูลอื่น ๆ :   –

มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน
        AVERS Guide :        19

        DOT Guide :            132

        – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650

        – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457

มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ
        อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)

        แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557