ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Calcium chloride
ชื่อเคมีทั่วไป Calcium chloride ชื่อพ้องอื่นๆ Calcium dickloride ; Calcium chloride anhydrous ; Caltac ? ; Dowflake ; Calcosan สูตรโมเลกุล CaCl2 รหัส IMO – CAS No. 10043-52-4 รหัส EC NO. 017-013-00-2 UN/ID No. 1453 รหัส RTECS FV 9800000 รหัส EUEINECS/ELINCS 233-140-8 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า Mallinckrodt Baker , Inc. แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : สารนี้นำไปใช้ในห้องปฏิบัติการ(Laboratory reagent) |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 1000 (มก./กก.) (หนู)
LC50(มก./ม3) : – IDLH(ppm) : – ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : – PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : – TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : เม็ด,ของแข็ง
สี : สีขาว หรือเทา-ขาว กลิ่น : ไม่มีกลิ่น นน.โมเลกุล : 110.98 จุดเดือด(0ซ.) : > 1600 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : 772 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 2.15 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : – ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : – ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : ละลายน้ำได้,74.5ที่ –0ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : 8 – 9ที่ 200ซ. แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 4.54 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.22 ppm ที่ 250ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : – |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปสารนี้ลักษณะเป็นเม็ด จะไม่เป็นอันตรายเมื่อหายใจเข้าไป แต่ถ้าหายใจเอาผุ่นเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจทำให้มีอาการไอ และหายใจถี่
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง การสัมผัสกับสารที่เป็นของแข็งต่อผิวหนังที่แห้งจะทำให้เกิดการระคายเคืองเล็กน้อย แต่ถ้าหากสัมผัสกับสารละลายเข้มข้น หรือของแข็งสัมผัสกับผิวหนังที่ชื้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง และอาจเกิดผิวหนังไหม้ได้ กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไป สารนี้เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่ำ แต่การกิจหรือกลืนเข้าไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในจมูกอย่างรุนแรง เนื่องจากความร้อนจากปฏิกิริยา ไฮโดรไลซีส ถ้ารับในปริมาณมากจะทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบ อาเจียน ปวดท้อง สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา ความร้อนจากปฏิกิริยา ไฮโดรไลซิล จะทำให้เกิดการระคายเคืองตาจากส่วนประกอบซึ่งเป็นคลอไรด์ในสาร ทำให้ตาแดง และปวดตาได้ การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียร ภายใต้สภาวะปกติของการใช้และการเก็บ ถ้าเปิดภาชนะทิ้งไว้สารจะรับความชื้นจากอากาศ
สารที่เข้ากันไม่ได้ : เมทริลไวนิลอีเธอร์ น้ำ สังกะสี โปรไมน์ไตรฟลูออไรด์ คนละตัวกับโบรไนด์ไตรฟลูออไรด์ แบเรียมคลอไรด์และกรดฟูรานเบอร์คาร์บอกซีลิก โลหะจะถูกกัดกร่อนอย่างช้าๆ ในสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์จะทำให้ อะลูมิเนียม (และอัลลอยด์) และทองเหลืองเกิดความเสียหาย สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : สารที่กันไม่ได้ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : เมื่อสารได้รับความร้อนสารจะสลายตัวปล่อยฟูมก๊าซพิษของคลอรีนแลอาจรวมตัวกับกรดซัลฟูริกและกรดฟอสฟอริก หรือน้ำ ที่อุณหภูมิสูงเกิดเป็นไฮโดรคลอไรด์ได้ อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : –
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : – ค่า LEL % : – UEL % : – สารดับเพลิง : ให้เลือกใช้สารดับเพลิง/วิธีการดับเพลิง ที่เหมาะสมสำหรับสภาพการเกิดเพลิงโดยรอบ – สารนี้เป็นสารไวไฟ – ให้สวมใส่ชุดป้องกันสารเคมีและอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมกับหน้ากากแบบเต็มหน้า – การเกิดเพลิงไหม้จะเกิดขึ้นภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิสูง หรือเมื่อมีความชื้นจะทำให้เกิดฟูม / ก๊าซพิษของแคลเซียมคลอไรด์ขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองได้ |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ สถานที่เก็บ : – ป้องกันการเสียหายทางกายภาพ แคลเซียมคลอไรด์ที่ชื้นหรือสารละลายที่เข้มข้นสามารถกัดกร่อนเหล็กได้ – แคลเซียมคลอไรด์จะถูกซับน้ำจากบรรยากาศและเปลี่ยนรูปเป็นสารละลายได้ – ภาชนะบรรจุของสารนี้ที่เป็นถังเปล่า แต่มีการสารเคมีตกค้าง เช่น ฝุ่น ของแข็งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : ไม่ระบุไว้ ประเภทอันตราย : ไม่ระบุไว้ หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : ไม่ระบุไว้ ขนาดผลิตภัณฑ์ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– วิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุกรณีรั่วไหล ให้อพยพคนออกจากพื้นที่ที่หกรั่วไหล
– ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสม – ให้เก็บกวาดส่วนที่หกรั่วไหลและบรรจุใส่ในภาชนะบรรจุเพื่อเก็บคืนหรือนำไปกำจัด – ให้ใช้วิธีการดูดหรือกวาดขณะชื้นเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของฝุ่น – สารที่เหลือตกค้างเล็กน้อยให้ฉีดล้างลงสู่ท่อระบายน้ำด้วยน้ำปริมาณมากๆ การกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ช่วยผายปอด และถ้ามีอาการหายใจติดขัดให้ทำการให้ออกซิเจนช่วยนำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป ให้นำไปพบแพทย์ให้กระตุ้นทำให้อาเจียนทันทีโดยบุคลากรทางการแทพย์ ห้ามให้นำสิ่งใดข้าปากผู้ป่วยที่หมดสติ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ปริมาณมากๆ อย่างน้อง 15 นาที พร้อมกับถอดเสื้อผ้า และรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออกทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าอย่างทั่วถึงก่อนนำมาใช้อีกครั้ง สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาโดยทันทีด้วยน้ำปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมทั้งกระพริบตาถี่ๆขณะล้างด้วยน้ำแลนำส่งไปพบแพทย์ทันที อื่นๆ : แจ้งต่อแพทย์ การรับสารทางการกลืนหรือกินเข้าไปทางปากอาจเป็นสาเหตุของภาวะที่โลหิตมีปริมาณไบคาร์โบเนทมากกว่าปกติ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :
– จากข้อมูลนี้สามารถหาได้ของ แคลเซียม คลอไรด์ แอนไฮดริส พบว่า สารนี้จะไม่เกิดการสลายตัวโดยกระบวนการทางชีวภาพ หรือไม่มีการรวมตัวกันทางชีวภาพ – สารนี้มีค่า LC 50 สำหรับปลาในช่วงการสัมผัส 96 ช.ม. มากกว่า 100 mh/l |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : –
OSHA NO. : – วิธีการเก็บตัวอย่าง : – วิธีการวิเคราะห์ : – ข้อมูลอื่น ๆ : – |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 29
DOT Guide : 140 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |