ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC 1,2-Ethanediol
ชื่อเคมีทั่วไป Ethylene glycol ชื่อพ้องอื่นๆ EG; Glycol; 1,2-Dihydroxyethane; Glycol Alcohol; Fridex; Ethane-1,2-diol; Dowtherm 4000; Dowtherm SR 1; Ethylene alcohol; Ethylene dihydrate; Lutrol-9; Macrogol 400 bpc; M.E.G.; Monoethylene glycol; Tescol; Norkool; Ucar 17; DuPont Zonyl FSE Fluorinated Surfactants; DuPont Zonyl FSO Fluorinated Surfactants; Ethylene Glycol สูตรโมเลกุล C2H6O2 รหัส IMO – CAS No. 107-21-1 รหัส EC NO. 603-027-00-1 UN/ID No. – รหัส RTECS KW2975000 รหัส EUEINECS/ELINCS 203-473-3 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า JT. Baker แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตโพลีเอสเทอร์เรซิน |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 4700 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : – IDLH(ppm) : – ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 50 (ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 50 (ppm) TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : 50 (ppm) พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : ใส คล้ายน้ำมัน กลิ่น : ไม่มีกลิ่น นน.โมเลกุล : 62.07 จุดเดือด(0ซ.) : 197.6 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : -13 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 1.1 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 2.1 ความหนืด(mPa.sec) : 21 ความดันไอ(มม.ปรอท) : 0.06 ที่ 200ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : ละลายได้ ที่ 200ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : – แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 2.54 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.39ppm ที่ 250ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : ละลายในเอทานอล เมทานอล |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไป การหายใจเอาไประเหยของสารเข้าไป โดยทั่วไปจะไม่เกิดอันตรายจนกว่าจะถูกทำให้ร้อน การได้รับไอระเหยเข้าไปเป็นเวลานานทำให้เกิดการระคายเคืองต่อคอ และทำให้ปวดศีรษะได้ อาจเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และง่วง เกิดอาการบวมน้ำของปอดและระบบประสาทส่วนกลางทำงานลดลง
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังเล็กน้อย แต่อาจเกิดการซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนกินเข้าไป อาการเริ่มแรก ถ้าได้รับปริมาณมากทำให้เกิดอาการมึนเมา ต่อไปจะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางมีการทำงานลดลง อาเจียน ปวดศีรษะ หายใจถี่ ๆ อัตราการเต้นของหัวใจลดลง ความดันโลหิตต่ำลง หมดสติ และชักกระตุกอย่างแรง การหายใจเข้าเกินไปก่อให้เกิดความตายได้ หรือเป็นสาเหตุของโรคหัวใจตามมา ปริมาณที่พอจะทำให้ตายได้ในมนุษย์ คือ 100 ml (3-4 ออนซ์) สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เจ็บปวด เป็นอันตรายต่อตา การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : การสัมผัสเรื้อรัง การได้รับสารซ้ำ ๆ ในทุกทางอาจก่อให้ปัญหารุนแรงต่อตับ ไต และก่อให้เกิดอันตรายต่อสมองด้วย ผิวหนังเกิดการแพ้ตามมา ก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ และสารนี้ทำลายประสาท ไต |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : คงตัวภายใต้สภาวะปกติของการใช้ การเก็บ
สารที่เข้ากันไม่ได้ : สารออกซิไดซ์อย่างแรง เกิดปฏิกิริยากับกรดซัลฟูลริกเข้มข้น กรดกำมะถัน , โอเลียม , กรดเปอร์คลอริก , การสัมผัสสารโครเมียมไตรออกไซด์ , โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต , โซเดียมเปอร์ออกไซด์ทำให้เกิดการจุดติดไฟ ที่อุณหภูมิห้อง การสัมผัสสารแอมโมเนียมไดโครเมต , ซิลเวอร์คลอเรต , โซเดียมคลอไรด์ และยูรานิลไนเนรตที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการจุดติดไฟ สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อน เปลวไฟ แหล่งจุดติดไฟ น้ำ และสารที่เข้ากัน สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : เมื่อถูกความร้อนจะเกิดสาร คาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนนอกไซด์ และฟูม/ก๊าซพิษที่ทำให้เกิดการระคายเคือง อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 111
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 398 ค่า LEL % : 3.2 UEL % : 15.3 สารดับเพลิง : ให้ใช้ผงเคมีแห้ง โฟม หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ – ที่อุณหภูมิมากกว่าจุดวาบไฟ ส่วนผสมไอระเหยกับอากาศจะระเบิดได้ภายในขีดจำกัดความไวไฟ ภาชนะบรรจุจะเกิดการระเบิดขึ้นได้เมื่อเกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ – น้ำ หรือโฟมจะก่อให้เกิดเป็นฟอง – ฉีดน้ำเป็นฝอยสามารถดับเพลิงบริเวณโดยรอบได้ และหล่อเย็นภาชนะที่ถูกเพลิงเผาไหม้ – ฉีดน้ำให้เป็นฝอยจะช่วยลดฟูมและก๊าซที่ทำให้เกิดการระคายเคือง – ในเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ ให้สวมใส่ชุดป้องกันสารเคมีและเครื่องช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมกับหน้ากากแบบเต็มหน้า ก๊าซพิษหรือไอระเหยของสารเคมีอาจถูกปล่อยออกมาเมื่อเกิดไฟไหม้ – ก๊าซพิษหรือไอระเหยของสารเคมีอาจถูกปล่อยออกมาเมื่อเกิดเพลิงไหม้ |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ สถานที่เก็บ : – ป้องกันการเสียหายทางกายภาพ แยกออกจากกรดด่าง และโลหะออกซิไดซ์ – ภาชนะบรรจุของสารนี้จะเป็นอันตรายเมื่อเป็นถังเปล่ามีกากสารเคมีหลงเหลืออยู่ เช่น ไอระเหย ของเหลว – สังเกตคำเตือนทั้งหมดและข้อควรระมัดระวังที่ระบุไว้สำหรับสารนี้ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : ไม่ระบุไว้ ประเภทอันตราย : ไม่ระบุไว้ หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : ไม่ระบุไว้ ขนาดผลิตภัณฑ์ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– วิธีการปฏิบัติการหกรั่วไหล ให้ระบายอากาศเมื่อเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล – ให้เคลื่อนย้ายของการจุดติดไฟทั้งหมดออกไป – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสม – กั้นแยกพื้นที่อันตรายออก – ควบคุมบุคคลที่ไม่มีชุดป้องกันอันตรายเข้าไป – เก็บและเอาของเหลวคืนกลับมาใช้ใหม่ถ้าเป็นไปได้ – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ทำให้เกิดประกายไฟ – เก็บรวบรวมของเหลงในภาชนะบรรจุที่เหมาะสมหรือดูดซับด้วนวัตถุเฉื่อย เช่น แร่หินทราย (vermiculite) ทรายแห้ง (earth) และเก็บภาชนะบรรจุกากของเสียจากเคมี – อย่าใช้วัสดุติดไฟได้ เช่น ขี้เลื่อย – อย่าฉีดล้างลงไปท่อระบายน้ำ – ต้องมีการรายงานถ้ามีปริมาณสูงกว่าปริมาณที่กำหนดในการรายงาน การกำจัด : ปฎิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปสู่อากาศที่บริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย และนำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป ให้กระตุ้นทำให้อาเจียนโดยทันทีโดยบุคคลากรทางการแพทย์ ห้ามให้สิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยหมดสติ นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ถอดเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีใด ๆ ออก ล้างผิวหนังด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 15 นาที ถ้าเกิดอาการระคายเคืองขึ้นให้นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที กระพริบตาถี่ ๆ และนำส่งไปพบแพทย์ อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :
– ไม่ก่อให้เกิดผลต่อระบบนิเวศน์ หากมีการใช้และจัดการกับผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 5523
OSHA NO. : PV 2024 วิธีการเก็บตัวอย่าง : กระดาษกรอง วิธีการวิเคราะห์ : แก๊ซโครมาโตกราฟฟี ข้อมูลอื่น ๆ : – การเก็บตัวอย่างใช้ glass fiber filter 13 mm; XAD – 7; 200 mg/100 mg – อัตราไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง : 0.5 ถึง2 ลิตร |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : –
DOT Guide : – – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |