ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Potassium iodide
ชื่อเคมีทั่วไป Hydroiodic acid, potassium salt ชื่อพ้องอื่นๆ PIMA; SSK; KI; Iodide of potash; สูตรโมเลกุล KI รหัส IMO – CAS No. 7681-11-0 รหัส EC NO. – UN/ID No. – รหัส RTECS TT 2975000 รหัส EUEINECS/ELINCS 231-659-4 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า J.T Baker แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : เป็นสารในห้องปฏิบัติการเคมี |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : –
LC50(มก./ม3) : – IDLH(ppm) : – ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 2.21(ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 1.47(ppm) TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ผลึกของแข็ง
สี : สีขาวถึงไม่มีสี กลิ่น : ไม่มี นน.โมเลกุล : 166.0 จุดเดือด(0ซ.) : 1330 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : 680 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 3.1 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : – ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : 1 ที่ 745 0ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : 140 ที่ 200ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : 7-9ที่200ซ. แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 6.789 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 1.147 ppm ที่250ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : – |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไป จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ มีอาการไอ และหายใจติดขัด น้ำมูลไหล และปวดศีรษะ
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง จะก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นผื่นแดง และปวดแสบปวดร้อน ถ้ารุนแรงเป็นลมพิษและตุมพอง กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไป จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินระบบย่อยอาหาร สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา จะก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นผื่นแดง และเจ็บปวด การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : ถ้าได้รับสารเป็นเวลานาน ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดง มีอาการน้ำมูกไหล ปวดศีรษะ ระคายเคืองเยื่อเมือก อ่อนเพลีย เป็นโรคโลหิตจาง น้ำหนักลด – สารนี้เป็นอันตรายต่อต่อมไทรอยด์ เลือด เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้เสถียรภายใต้สภาวะปกติของการใช้ และการเก็บ ถ้าสัมผัสกับอากาศไปนาน ๆ สารจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
สารที่เข้ากันไม่ได้ : เกลือไดอะโซเนียม ไดไอโซโพรฟิล เปอร์ออกซิไดคาร์บอเนต สารออกซิไดซ์ โบรมีน คลอรีนไตรฟูลออไรด์ ฟลูออรีนเปอร์คลอเรต คาโลเมล (เมอร์คิวรัสคลอไรด์) โพแทสเซียมคลอเรต เกลือของโลหะ กรดทาทาริกและกรดอื่น ๆ สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : อากาศ ความชื้น แสงสว่าง และสารที่เข้ากันไม่ได้ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : ออกไซด์ของสารประกอบโลหะ ฮาโลเจน และไอโอนิกฮาโลเจน อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : –
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : – ค่า LEL % : – UEL % : – สารดับเพลิง : ให้ใช้สารดับเพลิงทั่วไป – สารนี้ไม่ติดไฟ – กรณีเกิดเพลิงไหม้ ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันสารเคมี และเครื่องช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า – เมื่อเกิดการเผาไหม้ จะเกิดก๊าซไฮโดรเจนไอโอไดด์ที่เป็นอันตราย |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ สถานที่เก็บ : – เก็บห่างจากสารที่เข้ากันไม่ได้ : แสงแดด – การเก็บรักษานานเกินไป จะทำให้สารเสื่อมสภาพโดยสารจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง – ภาชนะบรรจุสารที่เป็นถังเปล่า แต่มีกากสารเคมีตกค้างอยู่ อาจเป็นอันตรายได้ – สังเกตคำเตือน และข้อควรระวังที่ระบุไว้สำหรับสารนี้ – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสม – ล้างบริเวณสารหกรั่วไหล หลังจากสารเคมีถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : ไม่ระบุไว้ ประเภทอันตราย : ไม่ระบุไว้ หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : ไม่ระบุไว้ ขนาดผลิตภัณฑ์ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– ระบายอากาศบริเวณที่สารหกรั่วไหล
– เก็บกวาดสารที่หกรั่วไหลใส่ภาชนะบรรจุสำหรับนำไปกำจัด – ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสม – ควรดูดหรือกวาดสารขณะชื้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงฝุ่น การกำจัด : ปฎิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล |
ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) : – สวมหน้ากากป้องกันการหายใจแบบครึ่งหน้า – สวมหน้ากากกระบังหน้าแบบครึ่งหน้า |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหายใจติดขัดให้ช่วยผายปอด และนำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป ห้ามสิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยที่หมดสติ ถ้ายังมีสติอยู่กระตุ้นให้เกิดการอาเจียนทันที และนำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนังให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีด้วยน้ำปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้า และรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออก ทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำมาใช้อีกครั้ง สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที กระพริบตาถี่ ๆ นำไปส่งพบแพทย์ถ้ายังมีอาการระคายเคือง อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :
– ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์หากมีการใช้และการจัดการกับผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : –
OSHA NO. : – วิธีการเก็บตัวอย่าง : – วิธีการวิเคราะห์ : – ข้อมูลอื่น ๆ : – |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : –
DOT Guide : – – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |