ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Chloromethylbenzene
ชื่อเคมีทั่วไป Benzyl chloride ชื่อพ้องอื่นๆ Omega-Chlorotoluene; Chlorophenylmethane; (chloromethyl)Benzene; Alpha-Chlorotoluene; Tolyl chloride; Benzyl chloride ; สูตรโมเลกุล C7H7Cl CAS No. 100-44-7 รหัส EC NO. 602-037-00-3 UN/ID No. 1738 รหัส RTECS XS 8925000 รหัส EUEINECS/ELINCS 202-853-6 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า SIGMA CHEMICAL CO. แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : ไม่ระบุไว้ |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 1231 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : 150ppm/ 2 ชั่วโมง (หนู)(มก./ม3) IDLH(ppm) : 10(ppm) ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 1(ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 1(ppm) TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : ชนิดที่ 1 พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : ไม่มีสี กลิ่น : ฉุน นน.โมเลกุล : 126.59 จุดเดือด(0ซ.) : 177-181 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : -43ถึง-39 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 1.1 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 4.36 ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : 0.91 ที่ 20 0ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : 0.05 ที่ 30 0ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : – แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 5.18 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.19 ppm ที่ 250ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : – |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : สัมผัสทางหายใจ การหายใจเข้าไปสารนี้จะไปทำลายเยื่อเมือกอย่างรุนแรง ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง เกิดการอักเสบ และเกิดอาการบวมน้ำ ของกล่องเสียง และหลอดลมใหญ่ เกิดอาการไอหายใจถี่รัว ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นโรคปอดอุดตันเนื่องจากสารเคมี
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง จะทำให้เกิดแผลไหม้ และสามารถทำลายเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นแดงและปวด กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนกินเข้าไป จะทำให้เกิดแผลไหม้ที่ปาก ลำคอ ท้อง กล่องเสียงบวม ชัก อัมพาต สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา จะทำให้น้ำตาไหล ทำให้เกิดการระคายเคืองทำลายเนื้อเยื่อบุตา การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : สารนี้เป็นสารก่อมะเร็ง |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : ไม่ระบุไว้
สารที่เข้ากันไม่ได้ : เมื่อสัมผัสกับโลหะทั่วไป ยกเว้น นิเกิลและตะกั่ว หรือความชื้น จะทำให้เกิดก๊าซพิษและสารกัดกร่อนไฮโดรเจนคลอไรด์, สารออกซิไดส์, เหล็กและเกลือของเหล็ก, ทองเหลือง สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : สารนี้จะสลายตัวเมื่อสัมผัสถูกความชื้น อากาศ น้ำ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ – เมื่อสัมผัสกับน้ำจะทำปฏิกิริยาอย่างช้า ๆ ได้ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ และเบนซินแอลกอฮอล์ อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : ไม่ระบุไว้ การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 74
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 585 ค่า LEL % : 1.1 UEL % : 14 NFPA Code : – สารดับเพลิง : ให้ใช้คาร์บอนไดออกไซด์ ผงเคมีแห้ง หรือโฟมที่เหมาะสม ห้ามใช้น้ำในการดับเพลิง – กรณีเกิดเพลิงไหม้ ให้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยการหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) และชุดป้องกันสารเคมีสัมผัสผิวหนัง และตา – เมื่อเกิดเพลิงไหม้ทำให้เกิดควันก๊าซพิษออกมา – ทำปฏิกิริยากับน้ำให้เกิดก๊าซกรด เมื่อสัมผัสกับผิวโลหะ จะทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนที่ไวไฟ และระเบิดได้ |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท – เก็บในที่แห้ง และเย็น มีการระบายอากาศดี สถานที่เก็บ : – เก็บให้ห่างจากแหล่งความร้อน เปลวไฟ – ล้างทำความสะอาดทั่วภายหลังจากการเคลื่อนย้าย ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : Benzyl Chloride ประเภทอันตราย : 6.1 หมายเลข UN : 1738 ประเภทการบรรจุหีบห่อ : กลุ่ม II ขนาดผลิตภัณฑ์ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– วิธีการปฏิบัติเมื่ออุบัติเหตุรั่วไหล ให้อพยพคนออกจากพื้นที่ที่หกรั่วไหล
– ปิดคลุมด้วยปูนขาวแห้ง ทราย หรือโซดาแอ๊ส และเก็บใส่ในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด และนำไปกำจัดเป็นกากของเสีย – ให้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยการหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) รองเท้าบู๊ท และถุงมือยาง ห้ามหายใจเอาไอระเหยเข้าไป การกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล |
ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) : ประเภทหน้ากากป้องกันระบบหายใจ
– สารที่ช่วงความเข้มข้นไม่เกิน 10 ppm : ให้เลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ ซึ่งใช้สารเคมีประเภทที่เหมาะสมเป็นตัวดูดซับในการกรอง (Cartridge) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 50 หรือ ให้ใช้อุปกรณ์ทำให้อากาศบริสุทธิ์ (Air – purifying respirator) พร้อมCartridge สำหรับป้องกันไอระเหยของสารอินทรีย์ และก๊าซของสารจำพวกกรด โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 25 หรือให้ใช้อุปกรณ์ส่งอากาศสำหรับการหายใจ (Supplied – air respirator) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 50 ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดที่มีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้าโดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 50 – ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หรือการเข้าไปสัมผัสกับสารที่ไม่ทราบช่วงความเข้มข้น หรือการเข้าไปในบริเวณที่มีสภาวะอากาศที่เป็น IDLH : ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดที่มีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า ซึ่งมีการทำงานแบบความดันภายในเป็นบวก ( pressure-demand / positive pressure mode) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 10,000 หรือให้ใช้อุปกรณ์ส่งอากาศสำหรับการหายใจ (Supplied – air respirator) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า ซึ่งมีการทำงานแบบความดันภายในเป็นบวก ( pressure-demand / positive pressure mode) หรือแบบที่ใช้การทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว และแบบความดันภายในเป็นบวก (combination with an auxiliary self-contained positive-pressure breathing apparatus) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 10,000 – ในกรณีการหลบหนีออกจากสถานการณ์ฉุกเฉิน : ให้ใช้อุปกรณ์ทำให้อากาศบริสุทธิ์ (Air – purifying respirator) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า (gas mask) พร้อม Canister สำหรับป้องกันไอระเหยของสารอินทรีย์ และก๊าซจำพวกกรด หรือให้ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับในกรณีการหลบหนีออกจากสถานการณ์ฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 50 |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : การหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยไม่หายใจ ให้ช่วยผายปอด ถ้าผู้ป่วยหายใจติดขัด ให้ออกซิเจน นำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : การกินหรือกลืนเข้าไป และผู้ป่วยยังมีสติอยู่ ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ แล้วกระตุ้นทำให้เกิดการอาเจียน นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังโดยทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้า และรองเท้าที่เปรอะเปื้อนออก สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ล้างตาโดยทันที ด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที โดยนิ้วถ่างตาให้กว้าง ฉีดล้างจนมั่นใจว่าสารเคมีออกหมด อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา : ห้ามทิ้งลงสู่ระบบน้ำ น้ำเสียหรือดิน |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 1003
OSHA NO. : – วิธีการเก็บตัวอย่าง : หลอดเก็บตัวอย่าง วิธีการวิเคราะห์ : แก๊ซโครมาโตกราฟฟี ข้อมูลอื่น ๆ : – การเก็บตัวอย่างใช้ coconut shell charcoal – อัตราการไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง 0.01 ถึง 0.2 ลิตรต่อนาที – ปริมาตรเก็บตัวอย่างต่ำสุด-สูงสุด ต่ำสุด 6 ลิตร สูงสุด 50 ลิตร |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 41
DOT Guide : – – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |