ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC 2-Butanol
ชื่อเคมีทั่วไป Sec-Butyl Alcohol ชื่อพ้องอื่นๆ Sec-Butanol; Ethyl Methyl Carbinol; 1-Methylpropyl Alcohol; Butan-2-ol; Methylethylcarbinol; 1-Methyl-1-propanol; Hydroxybutane; Methyl-1-propanol; สูตรโมเลกุล C4H10O CAS No. 78-92-2 รหัส EC NO. – UN/ID No. 1120 รหัส RTECS EO 1750000 รหัส EUEINECS/ELINCS 201-158-5 ชื่อวงศ์ Secondary aliphatic alcohol/ Secondary alkanol / Secondary alkyl alcohol ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า – แหล่งข้อมูลอื่นๆ CHEMINFO |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : ใช้ในการผลิตสารเมทิลเอทิลดีโตน ใช้เป็นตัวทำละลายสี เป็นสารยึดติด ใช้ในการผลิตเรซิน และแลกเกอร์ ใช้ในการสกัดโปรตีนจากปลา , เป็นส่วนประกอบไนน้ำมันไฮดรอลิก เป็นสารประกอบในการทำสารทำความสะอาดและน้ำหอม |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 6480 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : – IDLH(ppm) : 2000(ppm) ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 100(ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 100 (ppm) TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535: – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : ไม่มีสี กลิ่น : หวาน นน.โมเลกุล : 74.12 จุดเดือด(0ซ.) : 99.5 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : -89 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 0.808 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 2.55 ความหนืด(mPa.sec) : 3.5 ความดันไอ(มม.ปรอท) : 12 ที่ 200ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : 12.5 ที่ 200ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : เป็นกลาง แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 3.03 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.331ppm ที่250ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : ละลายได้ในเอทานอล อะซีโตน ไดเอทิล อีเธอร์ เบนซีน |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองจมูกและคอ ทำให้มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ เหนื่อยง่าย วิงเวียน ถ้าได้รับสารปริมาณมาก ทำให้หมดสติ ถ้าสารเข้าไปในปอดทำให้เกิดปอดอักเสบ หัวใจล้มเหลวและอาจทำให้เสียชีวิต
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง ทำให้เป็นผื่นแดง ผิวแห้ว ผิวแตก สารนี้ดูดซึมผ่านผิวหนัง กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ปาก คอ และท้อง ทำให้ปวดศีรษะ วิงเวียน งง คลื่นไส้ อาเจียน ถ้ารุนแรงทำให้หมดสติ และมีอาการโคม่า สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ตาแดง การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : สารนี้ทำลายตา ผิวหนัง ระบบหายใจ ระบบประสาทส่วนกลาง |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียร
สารที่เข้ากันไม่ได้ : โลหะอัลคาไลน์ ทำให้เกิดการระเบิด กรด กรดคลอไรด์ กรดแอนไฮไดรส์ ทำปฏิกิริยาคลอรีน ไอโซไซยาเนต และเอทิลีนออกไซด์ ทำให้เกิดการติดไฟและการระเบิด สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ประจุไฟฟ้า การเสียดสี แสงสว่าง สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : เมื่อเก็บสารเป็นเวลานานทำให้เกิดสารเปอร์ออกไซด์ อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 24
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 405 ค่า LEL % : 1.7 UEL % : 9.8 สารดับเพลิง : ให้ใช้โฟมแอลกอฮอล์ ผงเคมีแแห้ง คาร์บอนไดออกไซด์ – สารนี้ไวไฟ ไอระเหยสามารถลุกติดไฟเมื่อมีประจุไฟฟ้าสถิตย์ – ส่วนผสมของไอระเหยกับอากาศสามารถทำให้เกิดการระเบิดที่อุณหภูมิมากกว่า 24 องศาเซลเซียส – ไอระเหยของสารสามารถแพร่กระจายออกไปถึงแหล่งจุดติดไฟและอาจเกิดการติดไฟและอาจเกิดการติดไฟย้อนกลับมา – สารนี้เกิดการสะสมได้ – น้ำใช้ในการดับเพลิงไม่ได้ผล เพราะไม่สามารถทำให้สารเป็นกว่าจุดวาบไฟได้ – สารเคมีอันตรายจากการเผาไหม้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ – ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยเพื่อหล่อเย็นภาชนะบรรจุที่สัมผัสเพลิงไหม้ และใช้น้ำลดการแพร่การจายของไอระเหย – ใช้น้ำดับเพลิงควรห่างจากแหล่งจุดติดไฟ |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ สถานที่เก็บ : – เก็บแยกจากสารไวไฟ การจุดสูบบุหรี่ ไม้ขีดไฟ แหล่งจุดติดไฟ – เก็บแยกจากสารที่เข้ากันไม่ได้ – ต่อภาชนะบรรจุลงดินและใช้อุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ – บริเวณที่เก็บสารควรแยกจากบริเวณที่ทำงาน – อย่าเก็บสารไว้ใกล้ทางออก – ติดป้ายเตือนอันตราย – มีอุปกรณ์กับเพลิงและอุปกรณ์ทำความสะอาดในบริเวณเก็บสารเคมี – ให้สังเกตคำเตือนและข้อควรระวังทั้งหมดที่ให้ไว้สำหรับสารนี้ – เก็บไว้ในอุณหภูมิที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด – หลีกเลี่ยงการเกิดฝุ่น – ควรมีการทำความสะอาดบริเวณเก็บสารเคมี – ไม่ควรมีการตัด เชื่อม จุดบริเวณใกล้สารเคมี – อย่าใช้สารร่วมกับสารที่เข้ากันไม่ได้ – ติดฉลากที่ภาชนะบรรจุ – อย่านำสารที่ใช้แล้วนำกลับไปใส่ภาชนะบรรจุใหม่ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : Butanols ประเภทอันตราย : 3 หมายเลข UN : 1120 ประเภทการบรรจุหีบห่อ : กลุ่ม II, III ขนาดผลิตภัณฑ์ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– อย่าเข้าไปในบริเวณสารหกรั่วไหลจนกว่าจะมีการทำความสะอาดเสร็จ
– ทำความสะอาดโดยบุคคลที่มีความชำนาญ – ย้ายแหล่งจุดติดไฟออกจากบริเวณสารหกรั่วไหล – ให้หยุดการรั่วไหล ถ้าสามารถทำได้โดยปราศจากความเสี่ยงอันตราย – ระบายอากาศบริเวณสารรั่วไหล – ป้องกันไม่ให้สารเคมีที่หกรั่วไหล ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ แม่น้ำ และแหล่งน้ำอื่นๆ – ให้ดูดซับส่วนที่หกรั่วไหลด้วยทราย ดิน หรือวัสดุดูดซับที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสาร – เก็บส่วนที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดเพื่อนำไปกำจัด – ล้างบริเวณสารหกรั่วไหล หลังจากสารเคมีถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว การกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย นำส่งไปพบแพทย์ทันที
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป ห้ามไม่ให้สิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยที่หมดสติ ถ้าผู้ป่วยยังมีสติ ให้ผู้ป่วยบ้วนล้างปากด้วยน้ำ อย่ากระตุ้นให้เกิดการอาเจียนให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 240-300 ml เพื่อเจือจางสารในท้อง ถ้าเกิดอาการอาเจียน นำส่งไปพบแพทย์ทันที สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 20 นาที หรือจนสารเคมีออกหมดนำส่งไปพบแพทย์ทันที ซักทำความสะอาดเสื้อผ้า และรองเท้าก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 20 นาที หรือจนกว่าสารเคมีออกหมด ใช้นิ้วถ่างแยกเปลือกตาออก ถ้าให้น้ำล้างตาไหลมาโดนตาไม่ได้โดนสารเคมี นำส่งไปพบแพทย์ ถ้ายังมีอาการระคายเคือง อื่นๆ : ควรให้ผู้ป่วยได้พักผ่อน และให้พักให้อบอุ่น |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :
– ห้ามทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ น้ำเสีย หรือดิน – จะไม่ก่อเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหากมีการใช้และจัดการกับสารอย่างเหมาะสม |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 1401
OSHA NO. : – วิธีการเก็บตัวอย่าง : หลอดเก็บตัวอย่าง วิธีการวิเคราะห์ : แก๊ซโครมาโตกราฟฟี ข้อมูลอื่น ๆ : – การเก็บตัวอย่างใช้ coconut shell charcoal 100 mg./50 mg. – อัตราการไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง 0.01 ถึง 0.2 ลิตรต่อนาที – ปริมาตรเก็บตัวอย่างต่ำสุด-สูงสุด 1 ลิตร , 10 ลิตร |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 16
DOT Guide : 129 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |