ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC N,N-Diethanolamine
ชื่อเคมีทั่วไป Diethanolamine ชื่อพ้องอื่นๆ 2,2′-Iminobisethanol; Diethylolamine; Bis(2-hydroxyethyl)amine; DEA; Diolamine; N,N-Diethanolamine; Bis(hydroxyethyl)amine; 2,2′-Dihydroxydiethylamine; Iminodiethanol สูตรโมเลกุล C4H11NO2 รหัส IMO – CAS No. 111-42-2 รหัส EC NO. 603-071-00-1 UN/ID No. 1719 รหัส RTECS KL 2975000 รหัส EUEINECS/ELINCS 203-868-0 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า J.T. Baker แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : ใช้ในการทำสารน้ำมัน LPG ให้บริสุทธิ์, เป็นตัวทำละลาย , ใช้ในการผลิตก๊าซธรรมชาติ |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 710 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : – IDLH(ppm) : – ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : – PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 0.46(ppm) TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ผลึก,ของแข็ง
สี : ไม่มีสี กลิ่น : กลิ่นแอมโมเนีย นน.โมเลกุล : 105.14 จุดเดือด(0ซ.) : 269 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : 28 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 1.09 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 3.65 ความหนืด(mPa.sec) : 350 ความดันไอ(มม.ปรอท) : 5 ที่ 138 0ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : ละลายได้ ที่ 20 0ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : 11.0 ที่ 20 0ซ. แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 4.30 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.23 ppm ที่ 25 0ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่นๆ : – สารนี้สลายตัวที่อุณหภูมิ 270 องศาเซลเซียส |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเอาสารที่ความดันไอต่ำ เข้าไป จะทำให้เกิดอันตรายเพียงเล็กน้อยเว้นแต่สารจะถูกทำให้เกิดความร้อนหรืออยู่ในรูปของละออง ไอระเหยหรือละอองของสารจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ จาม ไอและอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง จะทำให้การระคายเคืองและเกิดผื่นแดง ถ้าสัมผัสสารละลายหรือสัมผัสสารในสภาพที่เสื้อผ้าเปียกจะทำให้เกิดแผลไหม้ได้ การสัมผัสสารนี้ครั้งเดียวเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ สารนี้สามารถดูดซึมผิวหนังได้ ไม่น่าจะมีผลให้เกิดอันตรายได้จากการดูดซึมผ่านผิวหนังแต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ กินหรือกลืนเข้าไป : การกินหรือกลืนเข้าไปในปริมาณน้อยจะไม่เป็นพิษมากนักแต่ถ้ากลืนหรือกินในปริมาณมากจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุเมือกทำให้เกิดอาการ ปวดช่องท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง ปริมาณสารที่รับเข้าไปแล้วทำให้เสียชีวิตได้ คือ20 กรัม ตัวทำละลายและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยมที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับสารนี้จะมีฤทธิ์ไปกดระบบประสาทส่วนกลางแต่สำหรับสารไดเอทิลโนลามีนนี้ ยังไม่ทราบ แน่นอนว่าทำให้เกิดผลดังกล่าวหรือไม่ สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา ทำให้เกิดการระคายเคืองตา น้ำตาไหล ตาแดง และปวดตา ซึ่งการสัมผัสอาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง และเกิดการบาดเจ็บที่กระจกตาได้ การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : การสัมผัสเรื้อรัง การสัมผัสสารทางผิวหนังเป็นระยะเวลานาน หรือการสัมผัสบ่อยครั้งจะทำให้เกิดอาการอักเสบของผิวหนัง จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าอวัยวะเป้าหมายของสารนี้คือ ตับ และไต |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียรภายใต้สภาวะปกติของการใช้และเก็บสารนี้เป็นสารดูดความชื้น (Hygroscopic)
สารที่เข้ากันไม่ได้ : ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์,ทองแดง,โลหะผสมทองแดง,เหล็กกัลวาไนซ์, ตัวทำละลายอินทรีย์ฮาโลเจน,กรด และสารออกซิไดซ์ สารละลายเข้มข้นหรือที่อุณหภูมิจะเกิดปฏิกิริยาที่อันตรายได้สาร N-nitrosamines ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อสารนี้สัมผัสกับกรดไนตรัส ไนเตรท หรือบรรยากาศที่มีความเข้มข้นของไนตรัสออกไซด์สูง สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง: ความร้อน,เปลวไฟ,แหล่งจุดติดไฟ,สารที่เข้ากันไม่ได้,แสงสว่าง และอากาศ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการเผาไหม้หรือสลายตัวเนื่องจากความร้อน : การลุกไหม้ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 130
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 662 ค่า LEL % : 1.6 UEL % : 9.8 สารดับเพลิง : ให้ใช้น้ำฉีดเป็นฝอย คาร์บอนไดออกไซด์ ผงเคมีแห้ง โฟมที่เหมาะสม – อัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างไอระเหยของสารกับ อากาศ เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงกว่าจุดวาบไฟ อาจก่อให้เกิดการระเบิดได้ – ให้ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยเพื่อหล่อเย็นภาชนะบรรจุที่ถูกเพลิงไหม้ – การใช้น้ำหรือโฟมในการดับเพลิงอาจจะทำให้เกิดฟองได้ – ในการดับเพลิงจะต้องสวมใส่ชุดป้องกันสารเคมี และอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมกับหน้ากากแบบเต็มหน้าที่ผ่านการรับรองจาก NIOSH |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดและป้องกันความเสียหายทางกายภาพ – เก็บในที่ที่อากาศเย็น แห้ง และมีการระบายอากาศดี สถานที่เก็บ : – เก็บให้ห่างจากความร้อน เปลวไฟ แสงแดด ความชื้นและสารที่เข้ากันไม่ได้ – ห้ามเติมสารพวกไนโตรต์ เนื่องจากจะทำให้เกิดสารพวก nitrosamine ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง – ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณที่มีการเก็บหรือใช้สารนี้ – สารสามารถจุดไหม้ได้เองแม้อุณหภูมิจะต่ำกว่าจุดลุกติดไฟ – ภาชนะบรรจุของสารนี้ทำเป็นถังเปล่า แต่มีกากสารเคมีตกค้างอยู่ เช่น ไอระเหย,ของเหลว อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ – ให้สังเกตุคำเตือนและข้อควรระวังทั้งหมดที่ให้ไว้สำหรับสารนี้ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : ไม่ระบุไว้ ประเภทอันตราย : ไม่ระบุไว้ หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : ไม่ระบุไว้ รายงานข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์ / ขนาด : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– วิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล ให้ระบายอากาศพื้นที่ที่หกรั่วไหล
– ให้เคลื่อนย้ายแหล่งของการจุดติดไฟทั้งหมดออกไป – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสม – กั้นแยกพื้นที่อันตรายออก – ห้ามให้บุคคลที่ไม่มีหน้าที่จะเป็นหรือไม่มีอุปกรณ์ป้องกันเข้าไปในบริเวณที่มีการหกรั่วไหล – เก็บและเอาของเหลวคืนกลับมาใช้ใหม่ถ้าเป็นไปได้ – ให้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ทำให้เกิดประกายไฟ – เก็บรวบรวมของเหลวใส่ในภาชนะบรรจุที่เหมาะสมหรือดูดซับด้วยวัสดุเฉื่อย เช่น แร่หินทราย (Vermiculite) ทรายแห้ง ดิน(Earth) และเก็บใส่ในภาชนะบรรจุกากของเสียจากเคมี – อย่าใช้วัสดุติดไฟ เช่นขี้เลื่อย ในการดูดซับสาร – อย่าฉีดล้างลงท่อระบายน้ำ การกำจัด : วิธีการกำจัด ให้กำจัดตามข้อกำหนด กฎระเบียบของทางราชการกำหนดไว้ |
มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล |
ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ช่วยผายปอด ถ้าผู้ป่วยหายใจลำบาก ให้ออกซิเจน นำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป อย่ากระตุ้นให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำมากๆ สำหรับผู้ป่วยที่หมดสติห้ามนำสิ่งใดเข้าปากผู้ป่วย นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ปริมาณมากๆ อย่างน้อง 15 นาที พร้อมกับถอดเสื้อผ้า และรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออก นำส่งไปพบแพทย์ ทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำมาใช้อีกครั้ง สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาโดยทันทีด้วยน้ำปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที ให้ใช้นิ้วเปิดเปลือกตาให้กว้างและล้างอีกครั้งจนมั่นใจว่าสารเคมีออก อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ : สิ่งแวดล้อมถูกทำลายเสียหาย
– สารนี้คาดว่าจะสลายตัวทางชีววิทยาได้ง่ายเมื่อรั่วไหลสู่ดิน – สารนี้คาดว่าจะถูกชะล้างลงสู่น้ำใต้ดิน – สารนี้คาดว่าจะสลายตัวทางชีววิทยาได้ง่ายเมื่อรั่วไหลสู่น้ำ – สารนี้คาดว่าจะมีการสลายตัวไปครึ่งหนึ่ง (half-life) ภายในเวลาน้อยกว่า 10-30 วัน เมื่อรั่วไหลสู่น้ำ – สารนี้คาดว่าสามารถสลายตัวได้ง่ายโดยทำปฏิกิริยาเคมีเมื่อถูกแสงทำให้เกิดไฮดรอกเรดิเคล เมื่อรั่วไหลสู่อากาศ – สารนี้คาดว่าตัวประกอบความเข้มข้นทางชีวภาพ (BCF) โดยประมาณน้อยกว่า 100 – สารนี้ไม่สามารถคาดได้ว่าจะสะสมสิ่งมีชีวิตได้ ความเป็นพิษต่อสิงแวดล้อม : ไม่พบข้อมูลที่ต้องการค้นหา – สารนี้มีแนวโน้มในการสะสมทางชีวภาพต่ำ |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 3509
OSHA NO. : PV 2018 วิธีการเก็บตัวอย่าง : อิมพิ้นเจอร์ วิธีการวิเคราะห์ : – ข้อมูลอื่น ๆ : – วิธีการวิเคราะห์ให้ใช้ ION CHROMATOGRAPHY – O2 0.5 ถึง 1 ลิตรต่อนาที – O3 5 ลิตร , 300 ลิตร |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 39
DOT Guide : 154 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |