ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Furfural
ชื่อเคมีทั่วไป Furfural ชื่อพ้องอื่นๆ 2-Furaldehyde; Furfuraldehyde; 2-Furancarboxaldehyde; Fural; Pyromucic aldehyde; 2-Furanaldehyde; 2-Furancarbonal; 2-Furfural; Alpha-furole; 2-Furylmethanal; Artificial ant oil; Artificial oil of ants; U1199; Fufural; Furaldehyde; 2-Formyl furan; Alpha-Furfuraldehyde; Furfural สูตรโมเลกุล C5H4O2 CAS No. 98-01-1 รหัส EC NO. – UN/ID No. 1199 รหัส RTECS – รหัส EUEINECS/ELINCS 202-627-7 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า – แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : เป็นสารเคมีที่ใช้ในห้องปฏิบัติการเคมี |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 65 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : 175/ 6 ชั่วโมง (หนู)(มก./ม3) IDLH(ppm) : 100(ppm) ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 2(ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 2(ppm) TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : ชนิดที่ 2 หน่วยงานที่รับผิดชอบ : กรมโรงงานอุตสาหกรรม |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : ไม่มีสี -เหลืองอ่อน กลิ่น : คล้ายอัลมอนด์ นน.โมเลกุล : 96.09 จุดเดือด(0ซ.) : 162 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : -39 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 1.16 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 3.3 ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : 1 ที่ 18.5 0ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : 8 ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : – แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 3.93 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.25 ppm ที่ 250ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่นๆ : – |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไป จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุเมือก ทางเดินหายใจส่วนบน เกิดอาการเจ็บคอ หายใจลำบาก ปวดศีรษะ ที่ความเข้มข้นสูง ๆ จะมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ปอดบวม และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง จะก่อให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ โรคผิวหนัง ภูมิแพ้ สารนี้สามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้ และจะส่งผลต่อระบบของร่างกาย กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไป สารนี้เป็นพิษสูง จะทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ผิดปกติ ประสาทถูกกด ปวดศีรษะอย่างรุนแรง อาจเสียชีวิตได้ สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา จะทำให้เกิดการระคายเคือง น้ำตาไหล คัน ตาแดง ตาบวม การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : อาจจะเป็นสารก่อมะเร็งได้ จากการศึกษาพบว่าเป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ การสัมผัสถูกสารนี้นานๆจะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ ชักอัมพาต และเมื่อรับเป็นเวลานาน จะทำให้อันตรายต่อตับ ไต สัมผัสเรื้อรัง : ทำให้ลิ้นชา ไม่รู้สึกรสชาติ ปวดศีรษะ |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียรที่อุณหภูมิห้อง และอยู่ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท จะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เมื่อสัมผัสถูกแสง
สารที่เข้ากันไม่ได้ : สารออกซิไดซ์อย่างแรง กรด เบส สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง: ความร้อน เปลวไฟ แหล่งจุดติดไฟ และสารที่เข้ากันไม่ได้ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการเผาไหม้หรือสลายตัวเนื่องจากความร้อน : การสลายตัว เมื่อได้รับความร้อนจะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง เมื่อถูกความร้อน หรือสัมผัสกับกรดแร่ หรืออัลคาไลท์ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 60
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 315 ค่า LEL % : 2.1 UEL % : 19.3 สารดับเพลิง : ให้ใช้น้ำฉีดเป็นฝอย ผงเคมีแห้ง แอลกอฮอล์โฟม หรือคาร์บอนไดออกไซด์ – เป็นของเหลวและก๊าซไวไฟ – ส่วนผสมของไอระเหยกับอากาศ สามารถระเบิดได้ภายในขีดจำกัดของการติดไฟ และอุณหภูมิสูงกว่าจุดวาบไฟ – จะทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับสารออกซิไดซ์ กรดแก่ เบส ทำให้เกิดเพลิงไหม้และระเบิดได้ – ภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท อาจเกิดระเบิดแตกได้เมื่อได้รับความร้อน – ไวต่อการเกิดประจุไฟฟ้าสถิตย์ – การฉีดน้ำเป็นฝอย จะช่วยในการควบคุมและหล่อเย็นภาชนะบรรจุที่ถูกเพลิงไหม้ และฉีดล้างสารที่หกรั่วไหลให้ออกห่างจากการสัมผัสกับเพลิง และเพื่อเจือจางสารที่หกรั่วไหลให้เป็นส่วนผสมที่ไม่ไวไฟ – สวมใส่ชุดป้องกันอันตราย และอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) ที่ผ่านการรับรองจาก NIOSH พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– ป้องกันความเสียหายทางกายภาพ – เก็บภายในที่เย็น แห้ง มีการระบายอากาศเป็นอย่างดี สถานที่เก็บ : – เก็บห่างจากพื้นที่ที่อาจเกิดอัคคีภัยได้ และห่างจากสารที่เข้ากันไม่ได้ – ต่อสายดินและสายต่อพ่วงระหว่างถังในขณะที่ถ่ายเทสารเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ – เก็บและใช้ในบริเวณห้ามสูบบุหรี่ – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ รวมทั้งตัวระบายอกาศชนิดป้องกันการระเบิดได้ – ภาชนะบรรจุนี้อาจจะเป็นอันตรายได้เมื่อเป็นถังเปล่า เนื่องจาก มีกากสารเคมีตกค้าง เช่น ไอระเหย ของเหลว – ให้สังเกตุดูป้ายเตือนอันตรายทุกชนิดสำหรับสารนี้ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : FURFURALDEHYDES ประเภทอันตราย : 6.1, 3 หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : กลุ่ม II รายงานข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์ / ขนาด : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– ระบายอากาศในบริเวณที่มีการหกรั่วไหล
– เคลื่อนย้ายแหล่งของการจุดติดไฟออกให้หมด – สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ( PPD / PPE ) ให้เหมาะสม – กั้นแยกพื้นที่อันตราย – ควบคุม / ป้องกันบุคลที่ไม่มีหน้าที่จำเป็น และไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลเข้าไป – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ – เก็บกักของเหลวใส่ในภาชนะบรรจุกากของเสียสารเคมี เพื่อนำไปกำจัดต่อไป ห้ามใช้สารดูดซับที่ติดไฟได้ เช่น ขี้เลื่อย – อย่าฉีดล้างลงท่อระบายน้ำ ถ้าสารที่หกรั่วไหลและไม่ติดไฟ ให้ใช้น้ำฉีดเป็นฝอย เพื่อลดการแพร่กระจายของไอระเหย และเพื่อป้องกันบุคคลที่พยายามจะเข้าไปหยุดการรั่วไหล และฉีดไล่ส่วนที่หกรั่วไหลให้ออกห่างจากการสัมผัสถูกเพลิงไหม้ การกำจัด : วิธีการกำจัด ให้กำจัดตามข้อกำหนด กฎระเบียบของทางราชการกำหนดไว้ |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย นำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป และยังมีสติอยู่ให้ดื่มน้ำหรือน้ำปริมาณมาก ๆ อย่าให้สิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยที่หมดสติ นำส่งไปพบแพทย์ทันที สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างทำความสะอาดด้วยสบู่ และน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออก นำส่งไปพบแพทย์ ล้างทำความสะอาดก่อนนำมาใช้อีกครั้ง สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที กระพริบตา ขึ้น-ลง บ่อย ๆ เพื่อให้มั่นในว่าล้างออกหมด นำส่งไปพบแพทย์ อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
– เป็นพิษอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในน้ำ
– ห้ามทิ้งลงสู่ระบบน้ำ น้ำเสีย หรือดิน |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 2529
OSHA NO. : 72 วิธีการเก็บตัวอย่าง : หลอดเก็บตัวอย่าง วิธีการวิเคราะห์ : แก๊ซโครมาโตกราฟฟี ข้อมูลอื่น ๆ : – การเก็บตัวอย่างใช้ : coconut shell charcoal 100 mg/ 50mg – อัตราการไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง : 1 ลิตรต่อนาที – ปริมาตรเก็บตัวอย่างต่ำสุด-สูงสุด : สูงสุด 180 ลิตร |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 19
DOT Guide : 132 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |