Iodine

ส่วนที่ 1ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น
        ชื่อเคมี IUPAC  Iodine

        ชื่อเคมีทั่วไป    –

        ชื่อพ้องอื่นๆ      Iodine sublimed

        สูตรโมเลกุล      I2

        สูตรโครงสร้าง   สไลด์29

        รหัส IMO     12283340_10207256009451999_60499863_n

        CAS No.        7553-56-2

        รหัส EC NO.  053-001-00-3

        UN/ID No.      1759            

        รหัส RTECS    NN 1575000

        รหัส EUEINECS/ELINCS        231-442-4

        ชื่อวงศ์  Halogen

        ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า  EM SCIENCE

        แหล่งข้อมูลอื่นๆ  A Division of EM Industries P.O Box 70 480 Democrat Road Gibbsto WN N.J 08027

ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม
        ส่วนประกอบ:

        ชื่อ         CAS #         น้ำหนักร้อยละ
                 7553-56-2         
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์
        การใช้ประโยชน์ : เป็นสารที่มีคุณค่าทางอาหาร ทำในไข่ปลอดเชื้อโรค เป็นสารฆ่าเชื้อโรค
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ
         LD50(มก./กก.) : 1,400  (มก./กก.)

        LC50(มก./ม3) :

        IDLH(ppm) :   2 (ppm)

        ADI(ppm) :      –

        MAC(ppm) :    –

        PEL-TWA(ppm) :      0.1 (ppm)

        PEL-STEL(ppm) :      –

        PEL-C(ppm) :       –

        TLV-TWA(ppm) :      0.1 (ppm)

        TLV-STEL(ppm) :      0.1 (ppm)

        TLV-C(ppm) :      0.1 (ppm)

        พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 :     –

        พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 :         –

        พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 :              –

        พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541  :      เฉลี่ย 8 ชั่วโมง : สารเคมีอันตราย

        พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 :          –

        หน่วยงานที่รับผิดชอบ :           –

ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี
         สถานะ : ผง

        สี : ม่วง น้ำตาลแดงหรือเทาดำ

        กลิ่น : ฉุน

        นน.โมเลกุล :  253.81

        จุดเดือด(0ซ.) :  184.4

        จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : 113.5

        ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) :        4.98

        ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) :    ~9

        ความหนืด(mPa.sec) :   –

        ความดันไอ(มม.ปรอท) :  0.31 ที่ 20 0ซ.

        ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) :  ละลายได้เล็กน้อย

        ความเป็นกรด-ด่าง(pH) :  –

        แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm =  10.38   

        มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 =         0.09 ppm ที่ 25 0ซ.

        ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : เปอร์เซ็นต์การระเหยโดยปริมาตร (%) : 100 %

มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย
        สัมผัสทางหายใจ : การสัมผัสทางหายใจ มีความเป็นพิษถ้ามีการสัมผัสทางการหายใจเข้าไป ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองจมูก ลำคอ และอาจเกิดแผลไหม้ได้ มีอาการปวดศีรษะ แน่นหน้าอก คลื่นไส้ มีอาการกระหายน้ำมาก และระบบไหลเวียนหยุดทำงานได้

        สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง จะทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง และเกิดแผลไหม้บริเวณผิวส่วนที่สัมผัสกับสาร

        กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองของลำคอ มีอาการปวดท้อง ท้องร่วง การรับสารโดยการกินหรือกลืนเข้าไปในปริมาณมากอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

        สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตาทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา และอาจเกิดแผลไหม้ได้ มีอาการน้ำตาไหล

        การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : สารนี้มีผลทำลายอวัยวะรับความรู้สึก ทางเดินอาหาร ต่อมไร้ท่อต่าง ๆ ต่อมไทรอยด์ สารนี้เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา
         ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียร

        สารที่เข้ากันไม่ได้ : ผงอลูมิเนียม แมกนีเซียม สังกะสี และแอมโมเนีย

        สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อนสูง และแสงสว่าง

        สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : ฟูม/ก๊าซ ของสารประกอบไอโอดีน     

        อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น

        การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้

มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด
         จุดวาบไฟ(0ซ.) :           –

        จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) :  –

        ค่า LEL % :    

        UEL % :                

        NFPA Code :   300

         สารดับเพลิง : กรณีเกิดเพลิงไหม้ให้เลือกใช้สารดับเพลิง/วิธีการดับเพลิงที่เหมาะสมสำหรับสภาพเกิดเพลิงโดยรอบ

                – สารนี้ไม่ติดไฟ

                – ขั้นตอนการดับเพลิง : ให้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศ (SCBA) และชุดป้องกันสารเคมี

                – สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : ฟูม/ก๊าซ ของสารประกอบไอโอดีน

มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง
         การเก็บรักษา :

                – เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด และเก็บห่างจากแหล่งความร้อน

                – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง และมีการระบายอากาศในพื้นที่เก็บเป็นอย่างดี

        สถานที่เก็บ :

                – เก็บห่างจากโลหะประเภทอลูมินั่ม ไททาเนียม ฟอสฟอรัส

                – เก็บห่างจากตัวทำละลายอินทรีย์ สินค้าประเภทยาง พลาสติก

                – ป้องกันการสัมผัสแดดโดตรงตรง อย่าหายใจเอาฝุ่น ไอระเหยเข้าไป อย่าให้สัมผัสถูกตา ผิวหนัง และเสื้อผ้า ล้างทำความสะอาดให้ทั่วหลังจากการเคลื่อนย้าย

        ข้อมูลการขนส่ง 

                ชื่อในการขนส่ง : ของแข็งมีฤทธิ์กัดกร่อน ( Corosive Solid) ไอโอดีน

                ประเภทอันตราย : 8

                หมายเลข UN : UN 1759

                ประเภทการบรรจุหีบห่อ : กลุ่ม III

มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล
        – วิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล ให้อพยพคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่

        – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายให้เหมาะสม

        – กำจัดแหล่งจุดติดไฟออกจนกระทั่งได้พิจารณาแล้วว่าจะไม่มีการระเบิดหรืออันตรายจากไฟขึ้นได้

        – บรรจุส่วนที่หกรั่วไหลออกมาและแยกออกจากแหล่งสารเคมีนั้น ถ้าสามารถทำได้โดยปราศจากความเสี่ยง

        – เก็บและบรรจุในภาชนะเพื่อนำไปกำจัดที่เหมาะสม ตามที่ในกฎการกำจัดสารเคมีและปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบทางราชการ ข้อมูลกฎระเบียบอื่น ๆ

        – รหัสกากของเสียตาม EPA : D002

          การพิจารณาการกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด

มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
 12305827_10207269043297837_1584498643_n 12277978_10207269044017855_554821809_n12309022_10207269202381814_1401123889_n

        ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) :     ประเภทหน้ากากป้องกันระบบหายใจ

        – สารที่ช่วงความเข้มข้นไม่เกิน 1 ppm : ให้ใช้อุปกรณ์ส่งอากาศสำหรับการหายใจ (Supplied – air respirator) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 10

        – สารที่ช่วงความเข้มข้นไม่เกิน 2 ppm : ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจประเภทที่ใช้การส่งอากาศสำหรับการหายใจ ซึ่งมีอัตราการไหลของอากาศแบบต่อเนื่อง โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 25 ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดที่มีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 50

       – ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หรือการเข้าไปสัมผัสกับสารที่ไม่ทราบช่วงความเข้มข้น หรือการเข้าไปในบริเวณที่มีสภาวะอากาศที่เป็น IDLH : ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดที่มีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า ซึ่งมีการทำงานแบบความดันภายในเป็นบวก ( pressure-demand / positive pressure mode) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 10,000 หรือให้ใช้อุปกรณ์ส่งอากาศสำหรับการหายใจ (Supplied – air respirator) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า ซึ่งมีการทำงานแบบความดันภายในเป็นบวก ( pressure-demand / positive pressure mode) หรือแบบที่ใช้การทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว และแบบความดันภายในเป็นบวก (combination with an auxiliary self-contained positive-pressure breathing apparatus) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 10,000

       – ในกรณีการหลบหนีออกจากสถานการณ์ฉุกเฉิน : ให้ใช้อุปกรณ์ทำให้อากาศบริสุทธิ์ (Air – purifying respirator) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า ซึ่งมี Canister ที่สามารถป้องกันก๊าซของสารกรด และอุปกรณ์กรองอนุภาพประสิทธิภาพสูง (HEPA filter หรือให้ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับในกรณีการหลบหนีออกจากสถานการณ์ฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) โดยแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่มีค่า APF. = 50

มาตรา 12: การปฐมพยาบาล
         หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่ที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย และนำส่งไปพบแพทย์

        กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป จัดให้เข้ารับการดูแลโดยแพทย์ทันที

        สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนังให้ฉีดล้างอย่างทั่วถึงทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ

        สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตาให้ฉีดล้างทันทีโดยไหลผ่านอย่างน้อย 15 นาที

         อื่นๆ : ไม่ระบุไว้

มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
         ข้อมูลทางนิเวศวิทยา : เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ พืชและสัตว์ ห้ามทิ้งลงสู่ระบบน้ำ น้ำเสีย หรือดิน
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์
         NMAM NO. :  6005

        OSHA NO. :   212

        วิธีการเก็บตัวอย่าง :     หลอดเก็บตัวอย่าง               

        วิธีการวิเคราะห์ :         –

        ข้อมูลอื่น ๆ :  

                – การเก็บตัวอย่างใช้ : alkali-treated charcoal 100mg/ 50 mg

                – อัตราการไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง : 0.5-1 ลิตรต่อนาที

                – ปริมาตรเก็บตัวอย่างต่ำสุด-สูงสุด : ต่ำสุด 15 ลิตร, สูงสุด 225 ลิตร

มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน
        AVERS Guide :          39

        DOT Guide :              154

        – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650

        – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457

มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ
        อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)

        แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557