ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Benzenecarbonyl chloride
ชื่อเคมีทั่วไป Benzoyl chloride ชื่อพ้องอื่นๆ Alpha-chlorobenzaldehyde; Benzoic Acid, Chloride สูตรโมเลกุล C6H5COCl CAS No. 98-88-4 รหัส EC NO. 607-012-00-0 UN/ID No. 1736 รหัส RTECS – รหัส EUEINECS/ELINCS 202-710-8 ชื่อวงศ์ – ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า J.T Baker แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : สารนี้เป็นสารวิเคราะห์และทดสอบทางด้านเคมี (regent) ในห้องปฏิบัติการเคมี |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 1900 (มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : 1870/ 2 (มก./ม3) IDLH(ppm) : – ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : – PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : – TLV-STEL(ppm) : 1 (ppm) TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : ไม่มีสี กลิ่น : เฉพาะตัว นน.โมเลกุล : 140.57 จุดเดือด(0ซ.) : 197.2 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : 0.6 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 1.21 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 4.88 ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : 1 ที่ 32 0ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : – ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : NA ที่ 21 0ซ. แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 5.75 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.17 ppm ที่ 25 0ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : ละลายในอีเทอร์ |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไป สารนี้มีฤทธิ์กัดกร่อน ทำลายเนื้อเยื่อบุเมมเบรนและทางเดินหายใจ ทำให้เป็นแผลไหม้ เกิดอาการหายใจติดขัด, กล่องเสียงอักเสบ, คอแห้ง, เจ็บคอ, ไอและหายใจลำบาก, หายใจถี่รัว, ปวดศรีษะ, คลื่นไส้และอาเจียน, อาจทำให้ตายได้ซึ่งเป็นผลจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ การอักเสบและอาการบวมน้ำของกล่องเสียงและหลอดลมใหญ่, โรคปอดอักเสบเนื่องจากสารเคมีและปอดบวม
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนัง สารนี้มีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้เกิดอาการผื่นแดง เจ็บปวด และแผลไหม้อย่างรุนแรงขึ้นได้ กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไป สารนี้มีฤทธิ์กัดกร่อนจะทำให้ปาก, ลำคอ และช่องท้องเป็นแผลไหม้อย่างรุนแรง ทำให้เจ็บคอ, อาเจียน, ท้องร่วง สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตา ไอระเหยของสารนี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองตาอย่างรุนแรงจะทำให้กระจกตาไหม้ได้และตาถูกทำลายได้ การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : สัมผัสเรื้อรัง การสัมผัสเป็นเวลานาน ๆ จะมีผลต่อผิวหนัง และทางเดินหายใจ |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียร เมื่ออยู่ในภาชนะที่ปิดมิดชิดภายใต้สภาวะการใช้และการเก็บปกติ
สารที่เข้ากันไม่ได้ : น้ำ ไอน้ำ แอลคาไล สารออกซิไดซ์ โซเดียมเอไฮด์ (DMSO Sodium azide) แอลกอฮอล์ เอมีน (Amines) และสารประกอบอินทรีย์อื่น ๆ จะทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจน สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อน เปลวไฟ แหล่งจุดติดไฟและสารที่เข้ากันไม่ได้ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : จะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ เมื่อได้รับความร้อน จะสลายตัวเป็นไฮโดรเจนคลอไรด์ และก๊าซฟอสจีน ถ้าสัมผัสถูกความชื้นจะเกิดก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ ที่เป็นพิษ และมีฤทธิ์กัดกร่อนขึ้น อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 72
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 600 ค่า LEL % : 1.2 UEL % : 4.9 สารดับเพลิง : คาร์บอนไดออกไซด์, หรือผงเคมีแห้ง, อย่าใช้น้ำหรือโฟมในการดับเพลิง – การฉีดน้ำให้เป็นฝอยสามารถใช้ควบคุมหล่อเย็นภาชนะบรรจุที่ถูกเพลิงไหม้ – ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมกับหน้ากากแบบเต็มหน้า – อย่าให้น้ำไหลเข้าไปในภาชนะที่บรรจุสารเคมี – ส่วนผสมของไอระเหยกับอากาศจะเกิดการระเบิดได้ภายในขีดจำกัดความไวไฟที่อุณหภูมิของจุดวาบไฟ – ไอระเหยสามารถไหลไปบนพื้นสู่แหล่งจุดติดไฟ และเกิดติดไฟย้อนกลับมาได้ – ภาชนะบรรจุที่ปิดผนึกอาจเกิดระเบิดได้เมื่อได้รับความร้อน – ขณะเกิดการเผาไหม้จะเกิดก๊าซฟอสจีนและก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ซึ่งเป็นก๊าซพิษขึ้นได้ – ชุดดับเพลิงธรรมดาไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะดับเพลิงที่เกี่ยวข้องกับสารนี้ – หลีกห่างจากภาชนะบรรจุที่ปิดผนึกสนิท เมื่อเกิดเพลิงไหม้ |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในที่เย็นและแห้งมีการระบายอากาศเป็นอย่างดี อยู่ห่างจากพื้นที่ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายจากอัคคีภัยอย่างเฉียบพลันได้ – ควรเก็บไว้ภายนอกอาคารหรือการแยกเก็บให้ถูกต้อง – แยกออกจากสารที่เข้ากันไม่ได้ สถานที่เก็บ : – ภาชนะบรรจุจะต้องมีสายต่อเชื่อมและต่อลงดินสำหรับการถ่ายเทเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดประกายไฟสถิตย์, และป้องกันไม่ให้มีความชื้น – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ รวมถึงการป้องกันการระเบิดได้ของอากาศ – ไม่ควรสูบบุหรี่ในบริเวณเก็บและใช้สารเคมีนี้ – ภาชนะบรรจุสารนี้ที่เป็นถังเปล่าแต่มีกากสารเคมีตกค้างอยู่ เช่น ไอระเหยของเหลว อาจเป็นอันตรายได้ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : Benzoyl chloride ประเภทอันตราย : 8 หมายเลข UN : UN 1736 ประเภทการบรรจุหีบห่อ : กลุ่ม II ขนาดผลิตภัณฑ์ : ไม่ระบุไว้ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– เคลื่อนย้ายแหล่งจุดติดไฟทั้งหมดออกไป
– จัดให้มีการระบายอากาศเมื่อเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล – ให้กั้นแยกเป็นพื้นที่อันตรายและ, ห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่มีหน้าที่จำเป็นและไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเข้าไป – เก็บรวบรวมของเหลวใส่ในภาชนะบรรจุที่เหมาะสมหรือดูดซับด้วยวัตถุเฉื่อย เช่น แร่หินทราย (vermiculite) ทรายแห้ง (earth) และเก็บใส่ในภาชนะบรรจุกากของเสียจากเคมี, อย่าใช้วัสดุติดไฟได้ เช่น ขี้เลื่อย ในการดูดซับสาร – ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสม – เก็บและเอาของเหลวคืนกลับมาใช้ใหม่ถ้าเป็นไปได้ – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ทำให้เกิดประกายไฟ ป้องกันอย่าให้น้ำที่เกิดจากการฉีดล้างไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ – อย่าฉีดล้างลงไปท่อระบายน้ำ การกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล |
ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์, ถ้าไม่หายใจ ให้ช่วยผายปอด, ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย, นำส่งไปพบแพทย์
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากินหรือกลืนเข้าไป, อย่ากระตุ้นทำให้เกิดอาเจียน, ให้ดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ , ห้ามให้สิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยที่ที่หมดสติ นำส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง เช็ดสารเคมีออกจากผิวหนังให้หมดแล้วฉีดล้างผิวหน้งด้วยน้ำปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก, นำส่งไปพบแพทย์โดยทันที, ทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำมาใช้อีกครั้ง สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาโดยทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที, นำส่งไปพบแพทย์ อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :
– ข้อมูลทางนิเวศวิทยา เมื่อรั่วไหลสู่ความชื้นในดินหรือน้ำ, คาดว่าสารนี้จะเกิดปฏิกิริยาของการสังเคราะห์ระหว่างน้ำกับสารประกอบที่ละลายในน้ำ, – สารนี้มีแนวโน้มที่จะไม่เกิดการสะสมในสิ่งมีชีวิต – เมื่อรั่วไหลสู่อากาศ สารนี้จะสลายตัวได้ปานกลางโดยทำปฏิกิริยากับสารไฮดรอกวิล เรดิรัล ที่เกิดจากการปฏิกิริยาเคมีกับแสง สารนี้จะสลายตัวโดยการสังเคราะห์แสงได้ปานกลาง เมื่อรั่วไหลสู่อากาศ สารนี้คาดวาจะมีการสลายตัวไปครึ่งหนึ่ง (halrtife) ภายในเวลาน้อยกว่า 1-10 วัน ความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม : สารนี้จะเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ค่าความเข้มข้นที่ทำให้ปลาตายกว่าร้อยละ 50 LC 50 ภายใน 96 ชั่วโมง มีค่าประมาณ 1-100 มิลลิกรัมต่อลิตร |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : –
OSHA NO. : – วิธีการเก็บตัวอย่าง : – วิธีการวิเคราะห์ : – ข้อมูลอื่น ๆ : – |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 41
DOT Guide : – – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |