ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC Hydrazinobenzene
ชื่อเคมีทั่วไป Phenylhydrazine ชื่อพ้องอื่นๆ Phenyldiazane; Monophenylhydrazine สูตรโมเลกุล C6H8N2 CAS No. 100-63-0 รหัส EC NO. 612-023-00-9 UN/ID No. 2572 รหัส RTECS MW 8925000 รหัส EUEINECS/ELINCS 202-873-5 ชื่อวงศ์ Hydrazine Derivative ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า EM SCIENCE A DIVISION OF EM INDUSTRIES แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : ใช้ในการผลิตยา ทำวัตถุระเบิด และผลิตสารเติมแต่งสำหรับโพลีเมอร์ |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 188 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : 2120 ชั่วโมง (หนู)(มก./ม3) IDLH(ppm) : 15(ppm) ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : 5(ppm) PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : 0.1(ppm) TLV-STEL(ppm) : 10(ppm) TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : เฉลี่ย 8 ชั่วโมง : สารเคมีอันตราย พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : เหลืองอ่อนใส กลิ่น : อะโรมาติก นน.โมเลกุล : 108.14 จุดเดือด(0ซ.) : 244 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : 19.5 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 1.0978 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 3.7 ความหนืด(mPa.sec) : – ความดันไอ(มม.ปรอท) : <0.1 ที่ 20 0ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : ละลายได้เล็กน้อย ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : – แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 4.42 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.23ppm ที่ 25 0ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่น ๆ : – สารนี้สามารถละลายได้ในแอลกอฮล์ คลอโรฟอร์ม อีเธอร์และเบนซิน |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคือง เยื่อเมือกและอาจจะทำให้ตายได้
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคือง สารนี้สามารถดูดซึมผ่านร่างกายได้ ในกรณีที่ผิวหนังแพ้ง่าย จะทำให้ผิวหนังอักเสบเปื่อย และพุพอง ผิวหนังซีดเป็นสีน้ำเงิน เนื่องจาก ขาดออกซิเจน, เป็นโรคดีซ่าน , ตับและระบบเลือดทำงานไม่ประสานกัน ทำลายไต กินหรือกลืนเข้าไป : การกลืนหรือกินเข้าไปอาจจะทำให้ตายได้ สัมผัสถูกตา : การสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : อวัยวะเป้าหมาย: ระบบทางเดินหายใจ โลหิต ตับ ไต สารนี้เป็นสารก่อมะเร็ง |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียรคาร์บอนมอนนอกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์, ควัน และไอระเหย
สารที่เข้ากันไม่ได้ : สารออกซิไดซ์, LEAD DIORID, LIED ( IV1 OXIDE, PORCHORYL FLUORIDE) สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อน, แหล่งจุดติดไฟ สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : สารประกอบคาร์บอนออกไซด์ ( COX ) , สารประกอบไนโตรเจนออกไซด์ ( NO2 ) อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : ไม่เกิดขึ้น การกัดกร่อนของโลหะ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : 88.8
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : – ค่า LEL % : – UEL % : – สารดับเพลิง : ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ให้ใช้ โฟม แอลกอฮอล์ คาร์บอนไดออกไซด์ ผงเคมีแห้ง – กรณีเกิดเพลิงไหม้ให้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) และชุดป้องกันสารเคมี – สารอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว เนื่องจาก ความร้อนจะเกิด ฟูม/ก๊าซ ที่มีความเป็นพิษสูงมาก |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด – เก็บในบริเวณที่เย็นและแห้ง สถานที่เก็บ : – เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ – เก็บห่างจากสารออกซิไดซ์ – เก็บภายใต้ไนโตรเจน – เก็บห่างจากความร้อนและเปลวไฟ – ให้ล้างทำความสะอาดร่างกาย ให้ทั่วถึงภายหลังทำการเคลื่อนย้าย ข้อมูลการขนส่ง ชื่อในการขนส่ง : PHENYLHYDRATINE ประเภทอันตราย : 6 หมายเลข UN : UN 2572 ประเภทการบรรจุหีบห่อ : – รายงานข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์ / ขนาด : ไม่ระบุ |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– วิธีการปฏิบัติในกรณีเกิดการหกรั่วไหล กั้นแยกบริเวณที่สารหกรั่วไหล และกั้นแยกบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากบริเวณที่สารหกรั่วไหล
– ปิด / เคลื่อนย้ายแหล่งจุดติดไฟ – ให้หยุดการรั่วไหล ถ้าสามารถทำได้โดยปราศจากความเสี่ยงอันตราย – เก็บส่วนที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดเพื่อนำไปกำจัด – รหัสของเสีย EPA: D002 การพิจารณาการกำจัด : ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป ถ้าผู้ป่วยมีสติให้ดื่มน้ำ และกระตุ้นให้ผู้ป่วยอาเจียนทันที โดยบุคคลากรทางแพทย์ ห้ามไม่ให้สิ่งใดเข้าปากผู้ป่วยที่หมดสติ พร้อมถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก และ ซักทำความสะอาดเสื้อผ้า และรองเท้าก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที พร้อมถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อนสารเคมีออก สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาทันทีด้วยน้ำปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
ข้อมูลทางนิเวศวิทยา :
– ห้ามทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ น้ำเสีย หรือดิน |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : 3518
OSHA NO. : – วิธีการเก็บตัวอย่าง : – วิธีการวิเคราะห์ : สเปคโตโฟโตมิเตอร์ ข้อมูลอื่น ๆ : – การเก็บตัวอย่างใช้ : Glass midget Bubbler – อัตราไหลสำหรับเก็บตัวอย่าง 0.2 ถึง 1 ลิตรต่อนาที – การวิเคราะห์ใช้เทคนิค Visible Absorption Spectrophotometry |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 38
DOT Guide : 153 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |