ส่วนที่ 1: ชื่อสารเคมีและข้อมูลเบื้องต้น |
ชื่อเคมี IUPAC 1- Chlorobutane
ชื่อเคมีทั่วไป N – butyl chloride ชื่อพ้องอื่นๆ N – propylcarbinyl chloride ; N-butyl chloride; N-propylcarbinyl chloride; Butyl chloride; Chlorobutane, 1- ; สูตรโมเลกุล C4H9Cl CAS No. 109-69-3 รหัส EC NO. 602-059-00-3 UN/ID No. 1127 รหัส RTECS EJ 3000000 รหัส EUEINECS/ELINCS 203-696-6 ชื่อวงศ์ Cholorinate Hydrocarbon ชื่อผู้ผลิต/นำเข้า J.T Baker Inc. แหล่งข้อมูลอื่นๆ – |
ส่วนที่ 2: องค์ประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม |
||||||
ส่วนประกอบ:
|
ส่วนที่ 3: การใช้ประโยชน์ |
การใช้ประโยชน์ : สารที่นำไปใช้เป็นสารทดสอบและวิเคราะห์ทางเคมี (reagent) ในห้องปฏิบัติการเคมี |
ส่วนที่ 4: ค่ามาตรฐานและความเป็นพิษ |
LD50(มก./กก.) : 2670 (หนู)(มก./กก.)
LC50(มก./ม3) : – IDLH(ppm) : – ADI(ppm) : – MAC(ppm) : – PEL-TWA(ppm) : – PEL-STEL(ppm) : – PEL-C(ppm) : – TLV-TWA(ppm) : – TLV-STEL(ppm) : – TLV-C(ppm) : – พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 : – พรบ. โรงงาน พ.ศ. 2535 : – พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 : – พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : – พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 : – หน่วยงานที่รับผิดชอบ : – |
ส่วนที่ 5: คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี |
สถานะ : ของเหลว
สี : ไม่มีสี กลิ่น : กลิ่นเหม็น นน.โมเลกุล : 92.58 จุดเดือด(0ซ.) : 78 จุดหลอมเหลว/จุดเยือกแข็ง(0ซ.) : -123 ความถ่วงจำเพาะ(น้ำ=1) : 0.88 ความหนาแน่นไอ(อากาศ=1) : 3.2 ความหนืด(mPa.sec) : 0.45 ความดันไอ(มม.ปรอท) : 80 ที่ 200ซ. ความสามารถในการละลายน้ำที่(กรัม/100 มล.) : 0.11 ที่ 200ซ. ความเป็นกรด-ด่าง(pH) : – แฟคเตอร์แปลงหน่วย 1 ppm = 3.79 มก./ม3 หรือ 1 มก./ม3 = 0.26 ppm ที่ 25 0ซ. ข้อมูลทางกายภาพและเคมีอื่นๆ : ละลายในเอทานอล |
มาตรา 6: อันตรายต่อสุขภาพอนามัย |
สัมผัสทางหายใจ : การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ รวมถึงการไอ หายใจถี่รัว ความเข้มข้นสูงมีผลทำให้มึนเมา
สัมผัสทางผิวหนัง : การสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง มีอาการผื่นแดง คัน และเจ็บปวด กินหรือกลืนเข้าไป : การกินเข้าไป จะก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงได้ สัมผัสถูกตา :การสัมผัสถูกตา จะก่อให้เกิดการระคายเคือง ผื่นแดง และเจ็บปวด การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ อื่นๆ : สารนี้ไม่ถูกจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อสารก่อมะเร็งของ ACGIH , IARC , NTP และ OSHA และสารนี้มีผลเรื้อรังต่อระบบประสาทส่วนกลาง |
มาตรา 7: ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา |
ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียรที่อุณหภูมิห้องในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก
สารที่เข้ากันไม่ได้ : สารออกซิไดซ์อย่างแรง สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการเผาไหม้หรือสลายตัวเนื่องจากความร้อน : คาร์บอนมอนนอกไซด์ , คาร์บอนไดออกไซด์ , ไฮโดรเจนคลอไรด์ , ฟอสจีน ออกไซด์ของคาร์บอนจะเหมือนกับออกไซด์ออนิค หรือฮาโลเจน ที่ถูกออกซิไดซ์ อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : จะไม่เกิดขึ้น |
มาตรา 8: การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด |
จุดวาบไฟ(0ซ.) : -9
จุดลุกติดไฟได้เอง(0ซ.) : 240 ค่า LEL % : 1.8 UEL % : 10.1 สารดับเพลิง : คาร์บอนไดออกไซด์ ผงเคมีแห้ง หรือโฟม – สารนี้ไวไฟมาก – น้ำจะมีประสิทธิ์ภาพในการหล่อเย็น แต่ไม่มีผลในการดับเพลิง – ใช้น้ำฉีดล้างส่วนที่หกรั่วไหลออกจากบริเวณที่สัมผัสถูกเพลิงและเจือจางส่วนที่หกรั่วไหลให้เป็นส่วนผสมที่ไม่ไวไฟ – ในขณะเกิดเพลิงไหม้ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันการหายใจชนิดมีถังอากาศในตัว (SCBA) พร้อมหน้ากากแบบเต็มหน้า – สารนี้จะสลายตัวที่จุดเดือด เกิดก๊าซพิษออกมา ออกไซด์ของไนโตรเจน คาร์บอนมอนนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ – สารเคมีนี้เมื่อถูกเผาไหม้จะทำให้ก๊าซฟอสจีนแลก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ – ส่วนผสมของไอระเหยกับอากาศอาจระเบิดได้ภายในขีดจำกัดความไวไฟที่อุณหภูมิสูงกว่าจุดวาบไฟ – การสัมผัสกับสารออกซิไดซ์อย่างแรงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ – ภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทอาจเกิดระเบิดได้เมื่อได้รับความร้อน – ไอระเหยสามารถไหลไปบนพื้นสู่แหล่งจุดติดไฟและเกิดไฟย้อนกลับมาได้ – ว่องไวต่อประจุไฟฟ้าสถิตย์ – ของเหลวไวไฟสูงจะต้องเก็บห่างจากประกายไฟ เปลวไฟ พื้นผิวร้อนและแหล่งของความร้อนและการจุดติดไฟทั้งหมด |
มาตรา 9: การเก็บรักษา สถานที่เก็บ เคลื่อนย้าย ขนส่ง |
การเก็บรักษา :
– เก็บในที่ที่แห้ง เย็น และมีการระบายอากาศที่ดี – ให้เก็บห่างจากพื้นที่ที่อาจเกิดอันตรายจากการเกิดอัคคีภัยอย่างเฉียบพลันได้ – แยกเก็บให้ห่างจากสารที่เข้ากันไม่ได้ ความร้อน ประกายไฟและเปลวไฟ สถานที่เก็บ : – เก็บไว้นอกอาคาร หรือแยกเก็บให้ถูกต้อง – ป้องกันการเสียหายทางกายภาพ – ห้ามสูบบุหรี่บริเวณที่ใช้งานและบริเวณที่เก็บสารเคมีนี้ – ภาชนะบรรจุจะต้องมีสายต่อเชื่อมและต่อลงดินสำหรับการถ่ายเทเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดประกายไฟฟ้าสถิตย์ – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่มีการเกิดประกายไฟ รวมถึงการป้องกันการระเบิดได้ของการระบายอากาศ – ภาชนะบรรจุสารที่เป็นถังเปล่าแต่มีกากสารเคมีตกค้างอยู่ อาจจะก่อให้เกิดอันตราย ควรใช้อย่างระมัดระวัง – ให้สังเกตคำเตือนและข้อควรระมัดระวังทั้งหมดของสารนี้ ข้อมูลการขนส่ง : ชื่อในการขนส่ง : คลอโรบิวเทน (Cholrobutane) ประเภทอันตราย : 3.2 หมายเลข UN : ไม่ระบุไว้ ประเภทการบรรจุหีบห่อ : กลุ่ม II รายงานข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์ / ขนาด : 4 ลิตร |
มาตราที่ 10: การกำจัดกรณีรั่วไหล |
– ให้เคลื่อนย้ายของการจุดติดไฟทั้งหมดออกไป
– กั้นแยกพื้นที่อันตรายออกและห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่มีหน้าที่จำเป็นและไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเข้าไป – ให้ระบายอากาศเมื่อเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล – เมื่อเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสม – ถ้าสารที่หกรั่วไหลยังไม่ลุกติดไฟ ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยเพื่อสลายกลุ่มไอระเหยและเพื่อป้องกันอันตรายต่อบุคคลที่พยายามจะเข้าไปหยุดการรั่วไหล และฉีดล้างส่วนที่หกรั่วไหลออกห่างจากการสัมผัสกับเปลวเพลิง – เก็บรวบรวมของเหลวในภาชนะบรรจุที่เหมาะสมหรือดูดซับด้วยวัตถุเฉื่อย เช่น แร่หินทราย (vermiculite) ทรายแห้ง (earth) และเก็บภาชนะบรรจุกากของเสียจากเคมี – อย่าใช้วัสดุติดไฟได้เช่นขี้เลื่อย – เก็บและเอาของเหลวคืนกลับมาใช้ใหม่ถ้าเป็นไปได้ – ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่มทำให้เกิดประกายไฟ – อย่าฉีดล้างลงไปท่อระบายน้ำ การกำจัด : วิธีการกำจัด ให้กำจัดตามข้อกำหนด กฎระเบียบของทางราชการกำหนดไว้ |
มาตรา 11: อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล |
ข้อแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPD/PPE) : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 12: การปฐมพยาบาล |
หายใจเข้าไป : ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย นำส่งไปพบแพทย์ทันที
กินหรือกลืนเข้าไป : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมกับถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออก ทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง สัมผัสถูกผิวหนัง : ถ้าสัมผัสถูกผิวหนังให้ฉีดล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมกับถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออก ทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำกลับมาใช้อีกครั้ง และส่งไปพบแพทย์ สัมผัสถูกตา : ถ้าสัมผัสถูกตา ให้ฉีดล้างตาโดยทันทีด้วยน้ำปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที กระพริบตาขึ้นลง นำส่งไปพบแพทย์ อื่นๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 13: ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
รั่วไหลสู่ดิน : สารนี้คาดว่าจะสามารถระเหยได้อย่างรวดเร็วและจะถูกชะล้างลงสู่น้ำใต้ดิน
รั่วไหลสู่น้ำ : โดยจะมีการสลายตัยวไปครึ่งหนึ่ง (half life) ภายในเวลาน้อยกว่า 1-10 วัน และสารนี้มีค่าสัมประสิทธิ์ค่า Log ของอ๊อกทานอลกับน้ำน้อยกว่า 3.0 รั่วไหลสู่อากาศ : สารนี้จะสลายตัวได้ปานกลางโดยทำปฏิกิริยากับสารไฮดรอกวิล เรดิวิลที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีกับแสง สารนี้จะสลายตัวไปครึ่งหนึ่งภายในเวลา 1-10 วัน ความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม : คาดว่าไม่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ |
มาตรา 14: การเก็บและวิเคราะห์ |
NMAM NO. : ไม่ระบุไว้
OSHA NO. : ไม่ระบุไว้ วิธีการเก็บตัวอย่าง : ไม่ระบุไว้ วิธีการวิเคราะห์ : ไม่ระบุไว้ ข้อมูลอื่น ๆ : ไม่ระบุไว้ |
มาตรา 15: ขั้นตอนการปฏิบัติงานฉุกเฉิน |
AVERS Guide : 18
DOT Guide : 130 – กรณีฉุกเฉินโปรดใช้บริการระบบให้บริการข้อมูลการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีทางโทรศัพท์หรือสายด่วน AVERS ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 – ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ กองจัดการสารอันตรายและกากของเสีย กรมควบคุมมลพิษ โทร 0 2298 2447,0 2298 2457 |
มาตรา 16: ข้อมูลอื่น ๆ |
อ้างอิง: กรมควบคุมมลพิษ 2557 ศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ MSDS Database (ออนไลน์)
แหล่งที่มา http://msds.pcd.go.th ธันวาคม 2557 |